Skip to content

ปลดล็อคสู่ความสำเร็จ การพัฒนาตนเองด้วยเทคนิค Time Boxing

“เวลาเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุด” เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะเคยได้ยินคำนี้ และก็ยังเป็นสิ่งที่ทุกคน “มีเท่ากัน” หากจัดสรรให้ดีสิ่งนี้ก็จะยิ่งทำให้เราได้รู้ว่าเวลามีมูลค่ามากขนาดไหน ในแวดวงของธุรกิจนั้น ผู้บริหารมักให้ความสำคัญกับสิ่งนี้มาก ไม่ว่าจะเป็นบริษัทขนาดเล็ก-ใหญ่ โรงงานอุตสาหกรรม โรงกลึง แต่สำหรับในระดับบุคคลนั้นเราก็สามารถบริหารเวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ตัวเราเองได้เช่นกัน ซึ่งหากทำได้ดี สิ่งนี้ก็จะเอฟเฟกต์ไปสู่สเกลที่ใหญ่กว่าอย่างองค์กรที่เราอยู่ รวมถึงการที่เราใช้ชีวิตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ความเป็นมาของ Time Boxing

เทคนิคการพัฒนาตนเองอย่างนึงสำหรับการบริหารเวลา รู้จักกันในชื่อสากลว่า “Time Boxing” ซึ่งคนที่ทำให้รู้จักเป็นวงกว้าง คือ เบนจามิน แฟรงคลิน (Benjamin Franklin) นั่นเท่ากับว่าผู้คนได้เริ่มใช้หลักการนี้มาเป็นศตวรรษแล้ว แต่ก็มีอีกแหล่งนึงที่บอกว่าชื่อนี้ได้มาจากเรียงความของ ซีริล นอร์ธโคต พาร์คินสัน (Cyril Northcote Parkinson) ที่ตีพิมพ์บน The Economist เมื่อปี 1995 จนกระทั่งเร็ว ๆ นี้มีผู้คนมากมายนั้นเริ่มเห็นความสำคัญของเทคนิคนี้ โดยมองว่า “งานทุกอย่างสามารถขยายไปจนเต็มเวลาได้จนกว่าจะเสร็จ” ซึ่งมันน่าจะโอเคกว่านี้หากมีการจำกัดเวลาที่เหมาะสมของแต่ละงานอย่างพอดี

การพัฒนาตนเอง

ประโยชน์ของการบริหารเวลา

เป็นเทคนิคพื้นฐานที่คนประสบความสำเร็จนั้นเลือกใช้กัน อย่างที่กล่าวอยู่เสมอว่าหากมีการจัดสรรกรอบเวลาเฉพาะให้แต่ละงานและเน้นเฉพาะงานนั้นในช่วงเวลาที่กำหนด นอกจะแบ่งส่วนที่เหลือไปทำอย่างอื่นได้แล้ว เราอาจจะได้งานที่ทรงประสิทธิภาพจากการโฟกัสอีกด้วย

  • ช่วยให้คุณวางแผนระหว่างวันได้อย่างรอบคอบ การที่หลายคนละเลยการวางแผนงานในแต่ละวันอย่างเหมาะสม อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ผลงานออกมาไม่ดีเท่าที่ควร
  • ช่วยให้คุณแน่ใจได้ว่ากำลังใช้เวลากับการทำงานอย่างมีประสิทธิผล และมุ่งเน้นจัดสรรให้กับงานที่สำคัญที่สุดของคุณในแต่ละวันอย่างเป็นลำดับ เป็นขั้นเป็นตอน
  • ช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการกำหนดนเส้นตายที่เข้มงวดในการทำงาน ในขณะเดียวกันยังทำให้คุณไม่ใช้เวลากับงานไหนมากเกินความจำเป็น
  • ช่วยให้คุณมีสมาธิกับแต่ละงานได้มากกว่าเดิม จดจ่อได้มากกว่าเดิม ยิ่งหากคุณเข้มงวดกับกระบวนการนี้ จะทำให้คุณทำงานเสร็จอย่างแน่นอนในแต่ละเซสชั่น
  • ช่วยให้คุณประเมินระยะเวลาของสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น เรียกว่านี่น่าจะเป็นเทคนิคที่ยอดเยี่ยมในการเมินแล้วว่างานแต่ละงานนั้นใช้เวลาแค่ไหน 
  • การมีกรอบของเวลากำหนดเอาไว้ บังคับให้ตัวเองต้องหยุดเมื่อหมดเวลา นอกจากจะอธิบายว่าแต่ละงานนั้นกินเวลาเท่าใดถึงเสร็จสมบูรณ์ จะทำให้คุณแพลนชีวิตแต่ละวันล่วงหน้าได้อย่างรวดเร็ว
การพัฒนาตนเอง

7 สเตป เทคนิคบริหารเวลาเบื้องต้น

  1. ตรวจสอบงานของคุณ : เริ่มจากทำรายการ “สิ่งที่ต้องทำให้เสร็จ” ออกมาก่อน จะใช้ทำเป็นแบบรายสัปดาห์ หรือรายเดือนก็แล้วแต่ เรียงลำดับความสำคัญแล้วค่อยวางแผนจัดทำรายการตามกรอบเวลาในแพลนของคุณ
  2. เลือกโฟกัสทีละงาน : เมื่อมีกรอบเวลาแน่ชัดแล้วให้เลือกทำไปทีละงานแบบเต็มที่ 100% โดยส่วนใหญ่แล้วจะเลือกงานที่สำคัญสุดในรายการก่อน
  3. กำหนดเป้าหมายชัดเจน : ระบุวัตถุประสงค์ของงานและกำหนดด้วยว่าคุณจะทราบได้อย่างไรเมื่อเสร็จสิ้น พยายามทำรายการสิ่งที่ต้องให้เสร็จสิ้นตามเป้าให้ได้
  4. จัดสรรเวลา / จำกัดเวลา : สิ่งที่คุณต้องท่องเอาไว้เลย “เวลาทำงานจะขยายตามกรอบเวลาที่มี” ดังนั้น คุณต้องกำหนดเวลาอย่างเข้มงวดสำหรับแต่ละรายการ พยายามทำให้สั้นลงที่สุด แต่ก็ต้องสมเหตุสมผลด้วย
  5. ทำซ้ำขั้นตอนที่ 2-4 : ในทุก ๆ งานใช้สเตป 1-4 ในการจัดสรร แล้วแบ่งไปในแต่ละวันให้ครบตามเป้าหมายสุดท้ายที่คุณได้แพลนเอาไว้ทั้งหมด 
  6. ดำเนินการตามแผนอย่างเคร่งครัด : ทำทุกสิ่งตามแพลนที่กำหนดให้ได้แบบ 100 เปอร์เซนต์ เสร็จเร็วกว่ากำหนดได้แต่ไม่ควรช้ากว่า เพราะจะกระทบทุกรายการที่เหลือเป็นทอด ๆ
  7. ตั้งเวลาชัดเจน และ จัดการสิ่งรบกวน : ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้จัดสรรอย่างดี และมีการตั้งเวลาอย่างชัดเจนในแต่ละงาน ที่สำคัญเลยคุณจำเป็นต้องจัดการสิ่งรบกวนที่อาจทำให้ถูกขัดจังหวะระหว่างงานอย่างจริงจังด้วย

เมื่อทำครบตามสเตปนี้ เพื่อให้แนวทางการพัฒนาตนเองได้ผลสัมฤทธิ์อย่างชัดเจน คุณควรประเมินผลลัพธ์หลังสำเร็จภารกิจด้วย โดยให้ประเมินตามความเป็นจริงที่สุด เพื่อที่จะได้ปรับปรุงการประมาณเวลาในอนาคตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพขึ้นเรื่อย ๆ

การพัฒนาตนเอง

ทำไมเราถึงควรใช้เทคนิคบริหารเวลา ?

มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะเริ่มคิดตามว่า เทคนิคการพัฒนาตนเองนี้เหมาะกับเรามั้ย ต้องเป็นคนประเภทไหน ระดับไหน ถึงใช้เทคนิคนี้ได้ ถ้ากำลังกังวลอยู่ เลิกคิดได้เลย ! เพราะสิ่งนี้มันแทบจะเป็นหลักการอันเป็นประโยชน์แบบสากลที่ใช้ได้กับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย แต่ถ้าจะให้ยกตัวอย่างบุคคล 2 ประเภทที่ “จำเป็น” และส่วนใหญ่ก็ใช้กันอยู่แล้ว คือ บรรดาโปรเจกต์เมเนเจอร์ กับ ผู้นำองค์กรทั้งหลาย อย่างที่ได้เกริ่นไว้ในตอนต้นนั่นแหละ

เอลอน มัสค์ (Elon Musk) กล่าวไว้ว่า “หากคุณให้เวลาตัวเอง 30 วันในการทำความสะอาดบ้าน มันก็จะใช้เวลา 30 วัน แต่ถ้าคุณให้เวลาตัวเอง 3 ชั่วโมง มันก็จะใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น” นี่คือประโยคทองของหัวเรือใหญ่เทสลาและโครงการสุดล้ำอีกมากมายที่ถูกนำมารีรันบ่อยที่สุด และน่าจะสื่อถึงความสำคัญของสิ่งนี้ได้ภายในโควทเดียว… 

แถมในตอนท้าย ! หากใครสนใจ หลักสูตร การพัฒนาตนเอง การบริหารเวลา ค้นหาคอร์สอบรมได้เพิ่มเติมได้ที่ aobrom.com

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ
หมวดหมู่
ติดตามเราใน Social

สาระนิยม
ก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้านงานผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมและกระบวนการทางวิศวกรรม

โรงกลึงพี-วัฒน์ ยึดมั่นปรัชญาในการทำงานตั้งแต่รุ่นสู่รุ่น เราเน้นใส่ใจลูกค้า มอบงานคุณภาพสูง ตรงต่อเวลา ราคาเหมาะสม ควบคุมงานโดยวิศวกรมืออาชีพ

“ร่วมมุ่งมั่นสร้างสรรค์พัฒนาคุณภาพเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า”

ป้ายกำกับ

ai (5) artificial intelligence (3) CNC Machining (7) CNC Machining Center (8) Internet of Things (4) IoT (6) robot (3) sustainability (3) ก๊าซเรือนกระจก (3) งานกลึง (3) งานกลึง cnc (6) จิ๊กและฟิกซ์เจอร์ (3) บล็อคเชน (2) ประหยัดพลังงาน (2) ปัญญาประดิษฐ์ (6) พลังงานทดแทน (3) พลังงานหมุนเวียน (3) ภาวะโลกร้อน (3) มลพิษทางอากาศ (2) มลภาวะทางอากาศ (2) รถ ev (3) รถยนต์ไฟฟ้า (3) รักษ์โลก (6) ลดโลกร้อน (6) วันหยุดบริษัท (5) วันแม่แห่งชาติ (2) วิทยาการหุ่นยนต์ (2) หุ่นยนต์ (4) หุ่นยนต์อุตสาหกรรม (6) อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (3) อุตสาหกรรม (3) อุตสาหกรรม 4.0 (3) อุตสาหกรรมการผลิต (3) อุตสาหกรรมยานยนต์ (3) อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ (4) อุตสาหกรรมโรงงาน (3) อุทกภัย (2) เครื่อง CNC (6) เครื่องกลึง CNC (8) เครื่องจักร CNC (4) เครื่องจักรกล CNC (3) เทคโนโลยีโรงงานอุตสาหกรรม (2) เทรนด์ (2) เทรนด์ 2023 (3) แนวโน้มอุตสาหกรรม (2)