ความอัจริยะของ CNC Machining Center “คอนดัคเตอร์” บนโลกของยานยนต์

CNC Machining Center

“คอนดัคเตอร์” หรือที่พากย์ไทยได้ว่า “วาทยกร” ผู้ผสานเสียงทุกเครื่องดนตรีทุกชิ้นให้เป็นหนึ่งเดียวบนเวที “ออเครสต้า” ก็เปรียบได้กับ CNC Machining Center (หรือเรียกสั้น ๆ ว่า CNC) บนโลกอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่คอยกำหนดทุกเครื่องจักรแต่ละส่วน แต่ละกระบวนการให้ผลิตชิ้นงานออกมาได้ตรงตามทุกความการเพื่อให้เนรมิตส่วนประกอบต่าง ๆ เกิดขึ้นเป็นรถยนต์คันงามหนึ่งคัน

ซึ่งก็ต่อเนื่องจากบทความก่อนในเรื่องของ อุตสาหกรรมยานยนต์กับ CNC Machining และโรงกลึงพี-วัฒน์ ที่เราเคลมนักเคลมหนาว่าหาก “เฮนรี่ ฟอร์ด” ผู้ก่อตั้งบริษัทฟอร์ดมอเตอร์ ยังมีลมหายใจ เทคโนโลยีนี้น่าจะเป็นสิ่งที่เขารักอันดับต้น ๆ ได้ไม่ยาก ก่อนที่เราจะสาธยาย “ความพิเศษ” ของ CNC ว่าเข้ามายกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ในด้านการผลิตได้อย่างน่าทึ่งมากแค่ไหน

แต่สำหรับใครที่ยังนึกภาพตามไม่ออกว่าเทคโนโลยี CNC นี้เกี่ยวข้องอย่างไรในกระบวนการของโรงงานรถยนต์บ้าง ทำไมบุคลากรหลายต่อหลายคนถึงกับต้อง “โค้งคารวะ” ให้กับสิ่งนี้ เนื้อหาด้านล่างนี้จะพาคุณไปหาคำตอบว่ารถยนต์หนึ่งคัน ส่วนไหนบ้างที่ CNC มีส่วนช่วยในการออกแบบชิ้นส่วนและผลิตบ้าง เชิญเลื่อนเพื่อทัศนาต่อกันได้เลย

เทคโนโลยี CNC Machining Center สิ่งนี้ “สรรค์สร้าง” อะไรได้บ้างกับรถยนต์ ?

หากจะมานั่งไล่ชิ้นเล็กชิ้นน้อยบอกเลยว่าทำเป็นคลิปวิดีโอลง Youtube น่าจะง่ายกว่าเยอะ ฉะนั้น เราขออนุญาตพูดถึง “ชิ้นส่วนหลัก” ของรถยนต์หนึ่งคันนั้นมีอะไรบ้างที่ CNC สามารถออกแบบและผลิตชิ้นส่วนเหล่านี้ได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว จนทำให้การผลิตรถยนต์หนึ่งคันของโรงงานอุตสาหกรรมนั้นถูกยกระดับ ถึงกับมอบคำนิยามให้เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีแห่งยุคนี้

CNC Machining Center
การติดตั้งไฟส่องสว่าง (Lighting)

การผลิตชิ้นส่วนไฟส่องสว่างของรถยนต์ต่างก็มีเทคโนโลยี CNC เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งก็คือ Machining Poly (Methyl Methacrylate) (PPMA) หรือเรียกภาษาแบบเข้าใจง่ายว่า “อะคริลิกแก้ว” และนี่ก็เป็นหลักฐานสำคัญที่บ่งบอกว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีชนิดนี้แค่กับอลูมิเนียม แต่ยังเกี่ยวข้องกับชิ้นส่วนในการผลิตแสงภายใน ภายนอกของตัวรถ รวมถึงไฟหน้าอีกด้วย

ที่น่าสนใจที่สุดคือ กระบวนการนี้ใช้เวลาน้อยมากทั้ง ๆ ที่วัสดุที่เราได้พูดถึงต้องผ่านทั้งการเจียรและขัดเงาซึ่งปกติกินเวลาพอสมควร ดังนั้น CNC จึงกลายเป็นทางเลือกหลักที่ผู้ผลิตรถยนต์เลือกใช้เพื่อสร้างต้นแบบในการทำไลท์ติ้งทั้งหมดให้กับตัวรถไปโดยปริยาย

เครื่องยนต์ (Engines)

อันนี้คาดว่าผู้ประกอบการหลายท่านน่าจะพอเดาออกว่าส่วนประกอบโดยมากของเครื่องยนต์ คงต้องมีเทคโนโลยีนี่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว เพราะขึ้นชื่ออลูมิเนียม เหล็ก ของแข็งต่าง ๆ เครื่องจักรแบบแมนนวลต้องมีส่วนแน่นอน ซึ่งหากมีเทคโนโลยี CNC เข้ามาทำหน้าที่เสมือนเป็น “วาทยกร” คอยกำหนดอีกที ทุกอย่างก็จะออกมาตามต้นแบบทุกกระเบียดนิ้ว 

ยกตัวอย่างเช่น หลังออกแบบบล็อกฝาสูบของรถยนต์โดยใช้ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ วิศวกรก็จะจัดการร่ายชุดคำสั่งไปยังเครื่องมือออกแบบที่ใช้มอเตอร์ผ่านเครื่อง CNC เพื่อทำการตัดบล็อกเครื่องยนต์ออกจากบล็อกอลูมิเนียมนั่นเอง

ฟังดูเหมือนจะง่ายดายไปเสียหมด เพราะศูนย์ควบคุมเครื่องจักรส่วนใหญ่สมัยนี้ล้วนติดตั้งโปรแกรมเครื่อง CNC เอาไว้ แต่การจะให้ทุกเครื่องนั้นทำงานได้เต็มประสิทธิภาพดำเนินทุกอย่างตามค่าที่ได้ตั้งไว้จำเป็นต้องมี “วิศวกรผู้ชำนาญการ” คอยทำหน้าที่ควบคุม โดยมีการกล่าวกันว่ากระบวนการนี้นั้นมีมูลค่ามหาศาลเกี่ยวกับการผลิต ค่อนข้างใช้เวลานาน และเหมือนเป็นชาเลนจ์เล็ก ๆ ของอาชีพวิศวกรผู้ดูแลกระบวนการนี้เลยทีเดียว

สวิงจากสิ่งที่ฟังดูเหมือนง่ายแล้วกลายเป็นขั้นตอนสุดเสี่ยง แต่สุดท้ายก็จะจบลงอย่างแฮปปี้เอนดิ้งแน่นอน หากทุกอย่างออกมาตามที่กำหนดแบบเป๊ะ ๆ เพราะเมื่อตั้งค่าโปรแกรมทุกอย่างเรียบร้อย เครื่องจักร CNC จะรับหน้าที่สานต่อสิ่งที่เหลือต่อจากนี้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ “แรงงานมนุษย์” ส่งผลให้นอกจากวิศวกรจะมีเวลาสร้างสรรค์ชิ้นงานเพิ่มแล้ว ยังลดภาระการใช้แรงงานโดยไม่จำเป็นอีกด้วย

CNC Machining Center
กระบอกสูบ (Cylinder Heads)

อย่างที่ได้บอกไปว่า CNC นั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ของวงการยานยนต์อีกต่อไปแล้ว การมีเทคโนโลยีนี้ผู้ผลิตสามารถสร้างกระบอกสูบและบล็อกเครื่องยนต์ได้เอง ซึ่งมันเป็นส่วนประกอบหลักที่ตอบสนองวัตถุประสงค์สูงสุดของเครื่องยนต์สันดาปภายใน แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบริษัท 

เท่าที่บอกได้คือส่วนประกอบบางส่วนของสิ่งนี้นั้นค่อนข้างหาได้ยาก ฉะนั้น การสร้างต้นแบบ CNC จึงกลายเป็นส่วนสำคัญการออกแบบโมเดลเครื่องยนต์ที่คุณสามารถกำหนดเองได้ทั้งหมด

โดยทั่วไป ส่วนประกอบดังกล่าวได้รับการออกแบบจากบล็อกอะลูมิเนียมเพียงชิ้นเดียว แต่จริง ๆ คุณสามารถทำได้มากกว่านั้น ไม่ว่าจะการผลิตชิ้นส่วนระบบส่งกำลัง วาวล์ ระบบเบรค เครื่องกําเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ และระบบปั๊มเชื้อเพลิง ทั้งหมดนี้โรงงานรถยนต์สามารถทำได้เองทั้งสิ้น

กระปุกเกียร์ (Gearboxes)

กระปุกเกียร์นั้นเป็นหนึ่งในระบบส่งกำลังของเครื่องยนต์ ซึ่งหากคุณแยกชิ้นส่วนออกมาแล้วจะพบกับส่วนประกอบของเกียร์และเพลาจำนวนมากอยู่ในนั้น และด้วยประสิทธิภาพของเครื่องจักร CNC ที่มีความแม่นยำระดับสูงในการตัดชิ้นส่วนต่าง ๆ แถมยังทำซ้ำได้ทีละจำนวนมาก ผู้ผลิตจึงสามารถผลิตชิ้นส่วนของเกียร์ได้อย่างรวดเร็ว

CNC Machining Center
แผงหน้าปัดภายใน (Interior Panels)

ปกติงานในโรงกลึง เครื่องกลึง เครื่องตัด จะเป็นตัวเอกของงาน แต่เครื่องกัดอัตโนมัติ (Milling Machines) จะเข้ามามีส่วนอย่างมากเกี่ยวกับแผงหน้าปัดภายใน โดยใช้เทคโนโลยี CNC ร่วม ด้วยคุณลักษณะเด่นที่คุณต้องไม่ลืมว่าสิ่งนี้สามารถกำหนดความซับซ้อนสัมผัสได้ถึงทุกอนูทุกการสอดคล้องกับพื้นผิวต่าง ๆ รวมถึงส่วนประกอบอย่างพลาสติก ดังนั้น เครื่องมือที่ใช้มอเตอร์ต่าง ๆ เมื่อถูกตั้งค่า CNC จึงสามารถเลือกตัดเฉพาะส่วนที่คุณต้องการตามที่ได้ตั้งค่าอย่างอิสระ

คอนดัคเตอร์ สำคัญต่อ “ออเครสต้า” เช่นไร CNC สำคัญต่ออุตสาหกรรมยานยนต์เช่นนั้น

จะเห็นได้ว่าทุกส่วนที่ได้กล่าวไป ล้วนแล้วแต่มีเครื่องจักรกลคอยทำหน้าที่ของตัวเองทั้งหมด แต่การมีอยู่ของ CNC Machining Center จะช่วยให้ทุกการออกแบบของแต่ละชิ้นส่วนนั้นสอดประสานกันได้เป็นอย่างดี เสมือนท่วงทำนองของแต่ละโน้ตที่แม้จะต่างเครื่องดนตรีหากแต่มี “คอนดัคเตอร์” คอยกำหนดทิศทาง สุดท้ายแล้วก็จะอยู่บนเส้นทางเดียวกันไปจนจบการแสดง กลายเป็นสุดยอดชิ้นงานตามที่เราได้กำหนดเอาไว้แล้วตั้งแต่เริ่มอย่างสวยงาม

อุตสาหกรรมยานยนต์ กับ CNC Machining และโรงกลึงพี-วัฒน์

อุตสาหกรรมยานยนต์

จากบทความก่อนหน้านี้ที่โรงกลึงพี-วัฒน์ได้แชร์เกร็ดความรู้-ความสำคัญเกี่ยวกับ CNC Machining หรือพากย์ไทยได้ว่า “เครื่องจักรกล CNC” (ทำความรู้จักเครื่องกลึง CNC Machining Center ตัวช่วยยกระดับ “งานกลึง” และมาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมทั่วโลก) ซึ่งเจ้าเครื่องจักรอัจฉริยะนี้ถือเป็นเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญอย่างมาก ที่เข้ามายกระดับอุตสาหกรรมโรงงาน สร้างมาตรฐานงานกลึงและทุกกระบวนการที่จำเป็นต้องใช้ความแม่นยำ ความละเอียด ชิ้นงานที่มีความซับซ้อนสูง รวมไปถึงงานประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ ซึ่งก็สามารถควบคุมได้ด้วยระบบ CNC แทบจะทั้งหมด

และสำหรับในโลกของ อุตสาหกรรมยานยนต์ ต้องบอกเลยว่าถูกยกระดับด้วยนวัตกรรมนี้แบบเต็ม ๆ ขอกล่าวถึงจุดเริ่มต้นเล็กน้อยเมื่อ 100 กว่าปีก่อนที่นวัตกรรมต่าง ๆ ได้ถูกเชื่อมโยงโดยตรงกับอุตสาหกรรมนี้ ต่อยอดจนมาถึง ค.ศ. 1913 ที่ เฮนรี่ ฟอร์ด ผู้ก่อตั้งบริษัทฟอร์ดมอเตอร์ ปฏิวัติวงการผลิตรถยนต์ ไม่ใช่แค่ทำให้เคลื่อนที่ได้โดยอัตโนมัติเพียงอย่างเดียว ความว้าวของครั้งนั้นคือ “อัตราการผลิต” ที่เรียกได้ว่าเปลี่ยนโลกไปอย่างสิ้นเชิง และหากผู้ก่อตั้งหนึ่งในแบรนด์ยานยนต์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกยังมีลมหายใจอยู่ คงจะรู้สึกรัก CNC Machining ไม่แพ้ใคร เพราะไม่ช่วงไม่กี่ปีมานี้ ระบบ CNC กลายเป็นหัวใจหลักของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ความก้าวหน้าในการออกแบบหุ่นยนต์ และกระบวนการผลิตอัตโนมัติแห่งยานยนต์อันเป็นเจตนารมย์เริ่มต้นของยุคก่อนเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ กล่าวได้ว่านี่เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงการผลิตแบบอัตโนมัติโดยแท้จริง

เข้าใจ CNC Machining คร่าว ๆ ภายในหนึ่งนาที

CNC Machining เป็นกระบวนการผลิตที่ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้ความสามารถในการผลิตชิ้นส่วนนั้นมีความแม่นยำสูงทั้งแบบโลหะและพลาสติก โดยกระบวนการจะเริ่มต้นด้วยการแปลงแบบจำลองดิจิทัลของชิ้นส่วนตามค่าคำแนะนำของเครื่อง

จากนั้นข้อมูลดังกล่าวจะถูกส่งไปยังเครื่อง CNC ที่เหมาะสม เช่น เครื่องกลึง เครื่องมิลลิ่ง เครื่องตัด และอื่น ๆ ต่อด้วยกระบวนการของเครื่องนั้น ๆ จนกว่าจะออกมาเป็นชิ้นส่วนตามที่เราต้องการตามค่าที่เราได้กำหนดไว้แล้วด้วยความหลากหลายที่เครื่อง CNC สามารถกำหนดค่าได้ การปรับระดับความซับซ้อน เทคโนโลยีนี้จึงเสมือนเกิดมาเพื่อ อุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเฉพาะ

อุตสาหกรรมยานยนต์

อุตสาหกรรมยานยนต์ x เครื่องจักรกล CNC ?

อย่างที่ได้เกริ่นไว้ตั้งแต่ช่วงต้น CNC Machining สิ่งนี้นั้นได้เข้ามายกระดับกระบวนการผลิตรถยนต์ แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ชนิดที่ เฮนรี่ ฟอร์ด ตื่นขึ้นมาเห็นแล้วยังต้องหลงรักหัวปักหัวปำ ซึ่งทำให้ผู้ผลิตทั่วโลกไม่พลาดที่จะตักตวงผลประโยชน์จากกระบวนการนี้

ข้อได้เปรียบการผลิตยานยนต์

ความเร็วในการผลิต

สำหรับปริมาณการผลิตตั้งแต่ปานกลางถึงสูง CNC Machining มีเวลาในการผลิตที่รวดเร็วมากกว่าแมนนวลดั้งเดิมอย่างมาก นั่นก็เป็นเพราะระบบอัตโนมัติที่ทำให้ร่นระยะการทำงานแบบที่ต้องใช้แรงงานออกไป ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของระบบและเครื่องจักรแทน แถมยังสามารถวางแผนการผลิตเพื่อเร่งความเร็วสูงสุด เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่อง รวมถึงเลือกวัสดุที่เหมาะสมได้อย่างแม่นยำ

ระบบอัตโนมัติ

จุดเด่นที่เห็นกันแบบเตะตา คือ ระบบอัตโนมัติของเครื่องนี้ ข้อได้เปรียบดังกล่าวไม่ได้ช่วยแค่เรื่องความเร็วเท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงความคล่องตัวในการผลิตตามกระบวนการต่าง ๆ ของอุตสาหกรรมยานยนต์ สิ่งเหล่านี้ทำให้เราสามารถโฟกัสกับงานออกแบบและสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้มากขึ้น ปล่อยให้เรื่องการผลิตเป็นของเครื่องจักรฮีโร่นี้แทน

การทำซ้ำ

ในฐานะที่ CNC Machining มีกระบวนการควบคุมที่ถูกดำเนินการโดยคอมพิวเตอร์เป็นหลัก จึงรับประกันได้เลยกับความสามารถในการ “ทำซ้ำ” ซึ่งถือได้ว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญในการตั้งค่าการผลิตระดับอุตสาหกรรมนั้น ยิ่งทำให้แน่ใจได้ว่าชิ้นส่วนต่าง ๆ จะมีความสอดคล้องกันในระดับ “Batch to Batch” เพื่อให้รถแต่ละคันออกมาได้มาตรฐานเดียวกันทั้งหมด ข้อได้เปรียบนี้จึงมีความสำคัญอย่างมาก

ความแม่นยำ

เพื่อให้สอดคล้องกับความสามารถในการทำซ้ำ CNC Machining สามารถตอบสนองความคลาดเคลื่อนที่จำเป็นสำหรับการผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ และเครื่องยนต์ นอกจากนี้ยังเข้ามามีบทบาทสำคัญสำหรับการผลิตชิ้นส่วนที่มีความซับซ้อนสูง เป็นอีกหนึ่งกระบวนการที่ทำให้สิ่งนี้ยกระดับการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การปรับแต่ง

แม้ว่าความจริงแล้ว อาจจะไม่เหมาะกับการปรับแต่งมากนัก แต่ในฐานะการผลิตแบบเติมแต่ง ก็สามารถใช้งาน CNC Machining เพื่อผลิตชิ้นส่วนที่ต้องการปรับแต่งตามความต้องการที่แตกต่างจากตัวแบบเดิมได้เช่นกัน แถมยังใช้เวลาอันสั้นไม่ว่าจะเป็นการผลิตในปริมาณเท่าไหนก็ตาม

อุตสาหกรรมยานยนต์

โรงกลึงพี-วัฒน์ตอบสนองสิ่งไหนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย

แนวโน้มตลาดยานยนต์บ้านเรา ณ ปัจจุบันมีการแข่งขันค่อนข้างสูง สืบเนื่องจากประชากรมีกำลังซื้อมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าว่ากันตามตรงแล้วตลาดนี้ยังคงมีวัตถุดิบอีกหลายส่วนหลายมุมให้ผู้ประกอบการได้เลือกนำเสนอแก่ผู้บริโภค เพราะหากมีการใช้งานอยู่เสมอ การซ่อมบำรุง ปรับปรุง หรือจะปรับแต่งตามความต้องการนั้นเป็นสิ่งที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว

ยุคเศรษฐกิจที่หลายคนกำลังเผชิญอยู่กันตอนนี้ การพูดถึงอะไหล่แต่งหากเป็นเรื่องความสวยงามจากบอดี้พาร์ทต่าง ๆ อาจดูไกลตัวเล็กน้อย แต่ถ้าเป็นเรื่องอะไหล่แต่งเพื่อสมรรถนะการใช้งาน อะไหล่ยนต์เพื่อทดแทนชิ้นส่วนเดิมด้วยคุณภาพที่ได้มาตรฐานผ่านการผลิตด้วยเครื่องมือระดับสูง ก็ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นอยู่หากประชากรยังต้องใช้รถเป็นพาหนะโดยสาร ไม่ว่าคุณจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบไหนก็ตาม

ฉะนั้น คุณสามารถเป็นสื่อกลางระหว่างผู้บริโภคกับเราด้วยการศึกษารีเสิร์ชหาความต้องการว่าเทรนด์ตอนนี้มีอะไรบ้างที่ได้รับความนิยม สิ่งที่หลายคนมองหาในช่วงยุคเศรษฐกิจแบบนี้คืออะไร สิ่งไหนที่อาจเป็นทางออกซึ่งเรา โรงกลึงพี-วัฒน์นั้นพร้อมตอบสนองทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นชิ้นส่วนยานยนต์แบบใดก็ตาม ขอแค่เพียงกำหนดสเป็คมาเท่านั้น CNC Machining ของที่นี่จัดให้ได้ทุกแบบตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้งานและความต้องการของผู้ประกอบการได้เต็มประสิทธิภาพแน่นอน

ขอขอบคุณสำหรับข้อมูลประกอบบทความจาก www.rapiddirect.com

ทำความรู้จัก เครื่องกลึง CNC ตัวช่วยยกระดับงานกลึง ให้กับโรงงานทั่วโลก

เครื่องกลึง CNC

แวดวงอุตสาหกรรมการผลิต เชื่อว่าหลายท่านอาจจะเคยได้ยิน ได้เห็น CNC Machining Center หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่าเครื่อง CNC สิ่งนี้ถือเป็นเครื่องจักรหลักของอุตสาหกรรมโลหะการ เพื่อสร้างชิ้นงานต่าง ๆ ของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ถ้าให้ยกตัวอย่างผ่านบริการของโรงกลึงพี-วัฒน์ของเรา ที่ใช้ เครื่องกลึง CNC ผลิตชิ้นงานในโปรเจคต่าง ๆ อย่างเช่น เครื่องจักรกลพิเศษเฉพาะทาง ชิ้นส่วนโรบอท อะไหล่แต่งรถยนต์-มอเตอร์ไซค์ และชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น

สำหรับคำว่าเครื่องจักรระดับ “ไฮเอนด์” ที่เราเน้นย้ำมาตลอด เครื่องกลึง CNC จึงเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในแม่ทัพหลักของโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงโรงกลึงพี-วัฒน์ของเรา และโรงงานชั้นนำที่ได้มาตรฐานระดับสากลทั่วไป

ส่วนในเรื่องของความสำคัญ หากถามว่าทำไมเครื่อง CNC จึงได้รับความนิยมและได้รับความไว้วางใจให้เป็นคีย์แมนของวงการผลิต รวมถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าที่สามารถมั่นใจได้เลยว่าชิ้นงานของคุณทุกชิ้น ทุกแบบ จะถูกสร้างมาถูกต้องตามรูปทรงที่ต้องการ ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ครบทุกฟังก์ชั่น มาร่วมกันหาคำตอบความอัจฉริยะของ CNC Maching Center ผ่านเนื้อหาด้านล่างนี้ได้เลย

เครื่องกลึง CNC

CNC Machining Center คืออะไร?

คำว่า “CNC” นั้นมาจาก Computer Numerical Control ความหมายคือ เครื่องจักรกลที่ทำตามด้วยระบบคำสั่งคอมพิวเตอร์แบบอัตโนมัติ ความละเอียดของคำสั่งจะช่วยให้การผลิตนั้นได้ขนาดและรูปทรงถูกต้องตามที่ต้องการชนิดว่าหากมีความคาดเคลื่อนจริง ๆ มีเพียงแค่ 0.001 mm. เท่านั้น ซึ่งก็เป็นดีเทลในระดับที่แทบจะไม่มีผลต่อการนำไปใช้งานเลยด้วยซ้ำ

แถมอีกส่วนสำคัญที่ทำให้เครื่อง CNC นั้นกลายเป็นพื้นฐานการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรม หลักเลยคือสิ่งนี้มี ATC อุปกรณ์เปลี่ยนทูลอัตโนมัติ (Automatic Tool Changer) ประกอบอยู่ด้วย การใช้งานจะลื่นไหลไม่จำเป็นต้องหยุดเพลา ใช้มือเปลี่ยนเครื่องมือเอง ช่วยประหยัดเวลาสำหรับการผลิตและกระบวนการอื่นได้มากเลยทีเดียว

นอกจากผู้ประกอบการที่เลือกใช้เครื่องนี้แล้ว ปัจจุบันยังมีภาคการเรียนการสอนที่เปิดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ มีความรู้ความสามาารถในการใช้ CNC Machining Center แบบครบวงจร

รู้จักกับโครงสร้างพื้นฐานเครื่องกลึง CNC

หากเคยเห็นหรือเคยใช้งานเครื่องกลึงมือมาก่อน จะเห็นได้ว่าโครงสร้างของ เครื่องกลึง CNC นั้นมีความคล้ายคลึงกันมากอยู่เหมือนกัน แต่สิ่งที่ทำให้เครื่อง CNC ยกระดับไปอีกขั้น ข้อแตกต่างหลัก ๆ คือ ระบบการควบคุมการทำงานของเครื่องจักร และระบบตรวจวัด 

เพียงแค่สองส่วนนี้ก็ช่วยให้การผลิตนั้นมีความเที่ยงตรงมากยิ่งขึ้น  มั่นใจในคุณภาพของชิ้นงานได้มากขึ้น ตรงตามความต้องการมากขึ้นทั้งในเรื่องของฟังก์ชั่นการใช้งานและรูปทรง หากรวมกับโครงสร้างหลักแบบ Manual จะประกอบด้วย 5 โครงสร้างด้วยกัน ดังนี้

  1. ระบบขับเคลื่อน 
  2. ระบบจับยึด
  3. ระบบตรวจวัด
  4. ระบบไฟฟ้า
  5. ระบบควบคุม

จาก 5 ระบบที่ว่ามานี้ ที่เราได้กล่าวข้างต้นว่า 2 ระบบที่สร้างความแตกต่างทำให้ความเป็นเครื่อง CNC นั้นเหนือระดับกว่าเครื่องกลึงแบบทั่วไป เนื่องด้วยระบบการวัดของเครื่องจักรรุ่นใหม่ในยุคนี้มีความละเอียดที่สูงมาก ส่วนพระเอกอย่างระบบควบคุมนั้นก็สั่งได้ตามต้องการด้วยโค้ดที่คุณสามารถโปรแกรมเพิ่มเติมให้ตรงตามกับความเหมาะสมได้เสมอ

ซึ่งช่างเทคนิคและวิศวกรของโรงกลึงพี-วัฒน์ของเราก็ใช้ระบบนี้อย่างชำนาญและมีประสิทธิภาพ เสริมความมั่นใจในคุณภาพของชิ้นงานทุกชิ้นให้แก่ลูกค้า 🙂

ไม่ใช่แค่กับเครื่องกลึงแต่เพียงอย่างเดียว เครื่องจักรแบบอื่นที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการอุตสาหกรรมการผลิตหลากหลายแบบ ทั้ง เครื่องเจียร เครื่องพิมพ์ และเครื่องตัด ก็ล้วนแล้วแต่ใช้ระบบนี้เพื่อประสานงานกัน เพื่อให้ชิ้นงานมีความละเอียด สวยงาม มีความซับซ้อนสูงแค่ไหน ก็ใช้ระบบควบคุมที่ว่านี้สั่งการได้ครอบคลุมทั้งหมด

สร้างชิ้นงานคุณภาพสูง ด้วย “เครื่องกลึง CNC”

ด้วยระบบของเครื่อง CNC ที่มาพร้อมกับความอัจฉริยะในด้านการควบคุมและสั่งการ ทำให้สิ่งนี้ก้าวข้ามขีดจำกัดในการผลิตเหนือเครื่องจักรแบบเดิม วัสดุที่ต้องการความละเอียดสูงแบบงานกลึง หากต้องการงานคุณภาพ ระบบเทคโนโลยีแบบ CNC พร้อมเป็นคำตอบสุดท้ายให้กับทุกโรงกลึงและโรงงานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง

นอกเหนือจากความละเอียดที่เน้นย้ำอยู่ตลอด การเลือกใช้งานเครื่องจักรระดับไฮเอนด์ที่ทันสมัยได้มาตรฐาน จะช่วยให้ความเร็วในการผลิตชิ้นงานเพิ่มขึ้นได้หลายเท่าตัว เนื่องจากระบบ CNC สามารถควบคุมเครื่องกลึงหลายเครื่องได้ในเวลาเดียวกัน 

พูดได้ว่านอกจากจะละเอียดยิบระดับ 0.001 mm. แล้วยังมีความรวดเร็วสูง ตอบโจทย์ทุกความต้องการทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพ และทันต่อการใช้งานซึ่งกลายมาเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักของเทรนด์บริการในปัจจุบันอีกด้วย

เครื่องกลึง CNC

รู้โครงสร้างเพื่อ “สร้างความเชื่อมั่น” ให้กับทุกชิ้นงานของคุณผ่านบริการของโรงกลึงพี-วัฒน์

การจะเลือกรับบริการใดสักอย่างหนึ่ง ความเชื่อมั่นเป็นสิ่งสำคัญที่จะทลายกำแพงต่าง ๆ ได้อย่างดี ไม่ใช่ในแง่ของอุตสาหกรรมการผลิตเพียงอย่างเดียว 

หากแต่ความเชื่อใจในการใช้บริการ หากได้รู้ว่าเครื่องมือของโรงงานที่เราได้เลือกเพื่อเป็นตัวแทนทำการผลิตสินค้าชิ้นงานนั้นเป็นอย่างไร ได้มาตรฐานสากลมากน้อยแค่ไหน 

สิ่งเหล่านี้ก็จะช่วยให้การประสานงานแต่ละกระบวนการเป็นไปอย่างลื่นไหล กอปรกับการมอบความไว้วางใจต่อทีมงานผลิตได้อย่างเต็มที่ จากนี้ก็ขึ้นอยู่กับเครื่อง CNC ที่จะ “เนรมิต” ทุกสิ่งที่อยู่ในแพลนกลายเป็น “ชิ้นงานจริง” ที่พร้อมส่งถืงมือคุณด้วยความรวดเร็วในทุกขั้นตอนบริการของเรา 

เครื่อง CNC ในแบบที่โรงกลึงพี-วัฒน์เลือกใช้นั้นมีความเหมาะสมกับงานกลึงทุกชนิด ความเชี่ยวชาญของเราพร้อมพิสูจน์คุณภาพผ่านทุกชิ้นงาน ผลิตได้ตามแบบ ไม่จำกัดจำนวนขั้นต่ำ ด้วยโรงกลึงของบริษัทเอง มั่นใจได้เลยว่าเครื่องนี้สามารถผลิตชิ้นส่วนวัสดุตามขนาดรูปทรงที่คุณต้องการ ต่อให้เป็นงานกลึงที่มีความละเอียด ความซับซ้อนสูงระบบอัจฉริยะ CNC Machining Center เอาอยู่แน่นอน

เทรนด์อุตสาหกรรม 2021 จากยุคเดิมสู่ อุตสาหกรรม 5.0 ผ่านมุมมองสื่อดัง Forbes

อุตสาหกรรม 5.0

ทุกการวิวัฒน์.. แม้มันต้องใช้เวลาในการปรับตัวเข้าหาสิ่งใหม่ที่จะกลายเป็นแนวทางในการอยู่รอดตามช่วงเวลานั้น ๆ แต่สิ่งที่ตามมาล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์มหาศาลหากว่าคุณก้าวข้ามผ่านขีดจำกัดแห่งการพัฒนาเหล่านั้นได้ เหมือนกับที่อุตสาหกรรม 4.0 ที่เพิ่งจะถูกพูดถึงไม่นาน แต่กลับกลายเป็นว่าอาจโดนอัปเกรดไปสู่ยุค อุตสาหกรรม 5.0 อย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้เป็นเพราะมีวิกฤตการณ์ โควิด – 19 เป็นตัวเร่งสิ่งต่าง ๆ ให้รุดหน้ายิ่งกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว จนเทรนด์โลกตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมชนิดใด “ปัญญาประดิษฐ์” (AI : Artificial Intelligence) เป็นสิ่งที่จะก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญ ทำให้ “มนุษย์” อย่างเราต้องผนึกกำลังกับสิ่งนี้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อการดำเนินธุรกิจของตนเอง

ในขณะที่ “Forbes” จ้าวแห่งสื่อธุรกิจการเงินแห่งสหรัฐอเมริกา ได้คาดการณ์เทรนด์ใหม่ของโลกธุรกิจผ่านมุมมองของพวกเขา สิ่งที่น่าสนใจจากผู้คร่ำหวอดในวงการธุรกิจมากว่า “ศตวรรษ” จะน่าสนใจขนาดไหน เราได้นำมาย่อยให้คุณได้อัปเดตไปพร้อม ๆ กัน ผ่านบทความนี้แล้ว..

อุตสาหกรรม 4.0 คืออะไร ยังมีความสำคัญมากน้อยแค่ไหนกับสถานการณ์ทุกวันนี้?

อุตสาหกรรม 4.0 คืออะไร.. ในช่วงรอบปีที่ผ่านมาคาดว่าหลายคนที่ข้องแวะเกี่ยวกับการทำธุรกิจน่าจะได้ยินคำนี้มากันพอสมควร ต่อให้ไม่รู้จักมักจี่อย่างถ่องแท้แต่เชื่อเหลือเกินว่าต้องเคยผ่านหูกันมาไม่บ้างก็น้อย 

อุตสาหกรรม 5.0

ซึ่งเจ้า “อุตสาหกรรม 4.0” นี้หลัก ๆ คือเรื่องของการปฏิวัตโลกแห่งการผลิต ที่หากคุณรู้จักกลไกลโครงสร้างของเขาจะทำให้เห็นภาพรวมต่าง ๆ ตั้งแต่เริ่มต้นวางแผน กระบวนการทำงานต่าง ๆ ที่สามารถช่วยให้คุณลดต้นทุน ทุ่นแรงจากการใช้เครื่องมือเทคโนโลยีชั้นสูง กลายเป็นคีย์แมนแห่งอุตสาหกรรมการผลิตไปโดยปริยาย

และดังที่กล่าวไป เพียงแค่พารากราฟสั้น ๆ ก็น่าจะทำให้คุณพอเห็นความสำคัญของสิ่งนี้แบบที่เราไม่ต้องอธิบายอะไรให้ยืดยาว

มุมมองจากสื่อ “จ้าวแห่งธุรกิจการเงิน” ต่อเทรนด์โลกธุรกิจและอุตสาหกรรม 5.0 ในอนาคต

ส่วนที่เราได้พูดค้างเอาไว้ในช่วงต้นของบทความว่า “Forbes” ได้มองถึงเทรนด์ของการผลิตในปี 2021 ที่จะเข้ามาเป็นบทบาทสำคัญของธุรกิจและโรงงานอุตสาหกรรมเกือบทุกประเภท เพื่อเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม 5.0 โดยแท้จริง สรุปได้ว่ามี 6 ปัจจัยหลัก ดังนี้

  1. Glocalization เป็นการฟิวชั่นกันระหว่างคำว่า Globalization X Localization พูดแบบให้เห็นภาพง่าย ๆ คือการผสมผสานแนวทางสากลสู่ความเป็นระบบท้องถิ่น เหตุผลหลักก็มาจาก โควิด – 19 อีกนั่นแหละ ที่ทำให้การขนส่งต่าง ๆ เป็นได้ยาก ทำให้หนทางอยู่รอดจำต้องหาซัพพลายเออร์ท้องถิ่นที่มีศักยภาพระดับสูงมาคัฟเวอร์สิ่งที่ขาดหายไปในช่วงนี้ 
  1. ปรับตัวเข้าหาเทคโนโลยี สิ่งที่ทุกองค์กรง่วนอยู่กับกระบวนการนี้ โลกแห่งธุรกิจถูกบังคับให้อัพเกรดในความ “คล่องตัว” หลายสิ่งหลายอย่าง การประสานงาน รวมถึงชุดข้อมูลหากเป็นแบบ “Real-Time” ได้ยิ่งนี้ สิ่งนี้จะทำให้ทุกธุรกิจ โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรมจะได้รับประโยชน์อย่างมหาศาลแน่นอน
  1. เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ อีกหนึ่งพระเอกของช่วงเวลาหลังโรคระบาด การแก้ปัญหาของความขาดแคลน “ซัพพลายเชน” ถูกสิ่งนี้เข้ามาทดแทนได้อย่างเฉียบขาด ตัวอย่างที่โลกประจักษ์เลยนั่นก็คือการเพิ่มผลผลิตอุปกรณ์การแพทย์แบบรวดเร็ว ซึ่งก็ได้คุณสมบัติพิเศษของสิ่งนี้เข้ามาเติมเต็มได้แบบไร้รอยต่อ
  1. ความสำคัญโครงสร้างพื้นฐาน IT ตรงจุดนี้เคยพูดถึงไปแล้วในบทความก่อน เป็นระบบแรก ๆ ที่จะถูกปรับปรุงเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเทรนด์โลกอุตสาหกรรมสมัยใหม่ การปรับขนาดให้เหมาะสมต่อองค์กร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของข้อมูล บริการ วิศวกรรมที่เกี่ยวข้อง ขนไปถึงระบบภายในต่าง ๆ จำต้องตอบสนองต่อโครงสร้างนี้ได้เป็นอย่างดี
  1. การลงทุนที่เพิ่มขึ้นของ IIOT เนื้อหาจาก Forbes ได้นำเสนอสิ่งที่ Rockwell Automation ได้คาดการณ์เอาไว้ว่าตลาดนี้จะเติบโตมากเกือบ 2 เท่าตัว ในปี 2020 – 2025 จากมูลค่า 77.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 110.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่น่าสนใจมากขึ้นเป็นตัวเลข 75% ที่ผู้ผลิดมีแพลนจะเพิ่มการลงทุนด้วยระบบอัฉริยะนี้ในปีต่อ ๆ ไป
  1. ปัญญาประดิษฐ์ที่มีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ที่ต้องบอกเช่นนี้ เนื่องจากแม้จะเป็นระบบอัฉริยะแต่ก็ยังมีจุดบอดให้เห็นกันอยู่ ดังนั้น ต่อให้เป็นมาตรฐานหลักที่ควรค่าแก่การพัฒนาก็ยังคงต้องทำงานร่วมกับมนุษย์ที่เป็นฝ่ายกำหนดความต้องการด้วยความเข้าใจต่อสถานการณ์โลกอย่างเราคอยควบคุมอีกที ทุกการประสานงานอันไหลลื่นจะส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจอย่างเต็มประสิทธิภาพสูงสุดอย่างที่คาดไม่ถึง โดยเฉพาะความสุดยอดของเซนเซอร์ IIOT สามารถสร้างข้อมูลมากกว่า 1.44 พันล้านตำแหน่งต่อข้อมูลโรงงานในหนึ่งวัน โดยตัวเลขนี้ทำให้หลายอุตสาหกรรมตระหนักว่าการบูรณการสิ่งนี้นั้นดีอย่างไร นี่เป็นเหตุผลที่หลายองค์กรผู้ไม่เคยอิดออดต่อการวิวัฒน์ นั้นมีพัฒนาการที่ก้าวกระโดดอยู่เสมอ
อุตสาหกรรม 5.0

จาก 4.0 ถึง 5.0 “ช้าหรือเร็วไม่เกี่ยว” หากแต่พร้อมรับมือ “ผลลัพธ์ล้วนดีเสมอ”

ทางเรา โรงกลึงพี-วัฒน์ นั้นก็ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงในการผลิต รองรับทุกความต้องการของลูกค้ามาเสมอ มีการพัฒนาเกี่ยวกับเทรนด์ใหม่ ๆ ที่จำเป็นต่ออุตสาหกรรม อย่างเครื่อง CNC Machining Center ที่เราได้นำให้บริการลูกค้ามาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งก็สอดคล้องกับการใช้เทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ที่ Forbes มองว่าจะเป็นเทรนด์ต่อ ๆ ไป เป็นสิ่งที่ตอกย้ำได้ว่าการบริหารงาน การดำเนินการของธุรกิจเราเป็นไปตามฉบับสากลมาโดยตลอด

ฉะนั้น มั่นใจได้เลยไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรม 4.0 ที่กำลังถูกพูดถึง หรือจะก้าวสู่อุตสาหกรรม 5.0 ในเร็ววันนี้ จากการเชื่อต่อระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักร ไปสู่การทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และระบบอัฉริยะปัญญาประดิษฐ์ ที่นี่พร้อมปรับตัวก้าวทันทุกยุคเพื่อรับรองทุกความต้องการ ตอบโจทย์ครอบคลุมทุกบริการแบบครบครัน 100 เปอร์เซนต์

แนวทางป้องกันโควิด-19 โรงงานอุตสาหกรรม มั่นใจได้มากน้อยแค่ไหน?

แนวทางป้องกันโควิด-19 โรงงานอุตสาหกรรม

ในยุคที่สถานการณ์ของโคโรน่าไวรัสส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการทำธุรกิจทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะในประเทศไทย หากว่ากันตามตรงต้องบอกว่า “หนักหน่วง” เหลือเกิน ไม่เว้นแม้แต่โรงกลึงหรือโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป ซึ่งต้องมีการปรับตัวภายใต้เงื่อนไขของการควบคุมต่าง ๆ และใช้กระบวนการทำงานภายใต้กรอบของ แนวทางป้องกันโควิด-19 โรงงานอุตสาหกรรม เพื่อให้ผลผลิตยังคงดำเนินการต่อไปได้ด้วยความปลอดภัยและเพิ่มความมั่นใจให้แก่ลูกค้า

ท่ามกลางความไม่แน่นอนของแถลงการณ์ต่าง ๆ ที่ออกมาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การที่มีหลักปฏิบัติออกมาเป็นมาตรการ “พื้นฐาน” เป็นดั่งแนวทางสำคัญที่เราสามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจของเราให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด แต่ก็ต้องยึดถือความปลอดภัย สุขภาพของทีมงานเป็นอันดับแรก  โดยโรงกลึงพี-วัฒน์ นั้นพร้อมสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้า ด้วยแนวทางปฏิบัติดังกล่าวบนมาตรฐานระดับสูงเหมือนเคย

หนักแค่ไหน.. อุตสาหกรรมไทยในสถานการณ์ โควิด-19

ตามที่เราได้รับข่าวสารผ่านหลายช่องทางในแต่ละวัน จากสถานการณ์ที่เคยดีขึ้นเป็นลำดับ กลับมาหนักหนาอีกครั้งเมื่อเจอพิษการระบาดของโควิด “ระลอกใหม่” ไม่ใช่ระลอกสอง ตามคำนิยามของ ศบค. เหมือนเมื่อช่วงส่งท้ายปี จนมาถึงช่วงสงกรานต์ปีใหม่ไทยที่กลับมาประทุอีกครั้ง โดยเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบหนัก ๆ ส่วนใหญ่แล้วแทบจะยังฟื้นตัวขึ้นมาก่อนหน้านั้นไม่ได้ด้วยซ้ำไป

และแน่นอน ธุรกิจที่โดนอัปเปอร์คัตปลายคางอีกครั้งหนีไม่พ้น “อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ” กรีฑาทัพโดย อุตสาหกรรมโรงแรม อุตสาหกรรมร้านอาหาร และอุตสาหกรรมการบิน แม้จะยังไม่ถึงกับน็อคแต่เรียกได้ว่าต้องเดินสะโหลสะเหลบนเวทีไปอีกพักใหญ่ นอกจากล่าสุดคนจะติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นทำสถิติ “New High” ทุก ๆ วัน จำนวนผู้เสียชีวิตมากขึ้นตามลำดับจนเป็นที่น่าวิตกกังวล

แนวทางป้องกันโควิด-19 โรงงานอุตสาหกรรม
Image by Drazen Zigic on Freepik

คาดว่ากว่าที่วัคซีนจะเข้ามามีบทบาทจนกลายเป็นหมัดเด็ดช่วยพลิกสถานการณ์ก็น่าจะอีกพักใหญ่ ฉะนั้น สถานการณ์ตอนนี้ธุรกิจใดมีแผนสอดคล้องกับมาตรการไหนที่ออกมา ปรับใช้กับโครงสร้างธุรกิจตัวเองได้มากน้อยขนาดไหน ก็ต้องออกหมัดคอยแย็บไว้บ้างยังดีกว่าไม่ได้ออกอาวุธอะไรเลย

สำหรับอุตสาหกรรมโรงงานก็ต้องปรับตัวไม่ใช่น้อยเช่นกัน อาจจะไม่ถึงกับหลังพิงฝาเหมือนกับอุตสาหกรรมอื่น ๆ แต่ถ้าจะบอกว่าไม่ได้รับผลกระทบเลย.. อันนี้ไม่ใช่แน่ ๆ อย่างมาตรการโควิด-19 ที่ออกมา มีหลายสิ่งหลายอย่างที่จำเป็นต้องทำเพิ่ม รายได้เป็นอย่างไรไม่รู้ แต่รายจ่ายเพิ่มเข้ามาเรียบร้อย เมื่อดูแล้วเป็นทางออกหลักที่จะทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ ทั้งยังเป็นการรับผิดชอบต่ออุตสาหกรรมโรงงานและสังคมโดยรวม เชื่อว่าโรงงานทุกแห่งพร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดอยู่แล้ว

แนวทางป้องกันโควิด-19 โรงงานอุตสาหกรรม โดยทั่วไป

มาตรการนี้นั้นเป็นข้อปฏิบัติพื้นฐานที่มีร่างออกมาตั้งแต่การระบาดของไวรัสตั้งแต่ระลอกแรก มีการปรับปรุงเรื่อยมาตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นถึงปัจจุบัน ฉะนั้น นี่ถือเป็นมาตรการสำคัญของโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไปและไม่เว้นแม้แต่โรงกลึงซึ่งปฏิบัติกันมาโดยตลอด

แนวทางป้องกันโควิด-19 โรงงานอุตสาหกรรม
Image by aleksandarlittlewolf on Freepik

ความเข้นข้นของระดับการใช้มาตรการนี้นั้นเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงองค์รวมของโครงสร้างธุรกิจและกระบวนการของแต่ละโรงงานเอง แต่โดยหลักทั่วไปแล้วข้อสำคัญ ที่จำเป็นต้องทำเลย คือการแบ่งทีมงานออกเป็น 2 ส่วน สลับกันทำแบบ เวิร์คฟอร์มโฮม (Work from Home) คล้ายกับมี 2 บริษัท เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างปกติที่สุด

ในส่วนของกระบวนการผลิตนั้น ชุดอุปกรณ์ป้องกันพื้นฐานจำต้องมีการแจกจ่ายและตรวจอย่างเคร่งครัด นอกจากเป็นการป้องกันภายในโรงงานแล้ว การส่งสินค้าออกถือเป็นความเสี่ยงสูงสุดที่อาจทำให้เป็นคลัสเตอร์ระลอกใหม่ได้เลย แต่ก็ยังเป็นที่เรื่องที่น่ายินดีว่าที่ผ่านมานั้นยังไม่มีข่าวว่าอุตสาหกรรมในโรงงานนั้นมีการบกพร่องแต่อย่างใด

ด้วยมาตรฐานและปรัชญาของโรงกลึงพี-วัฒน์ กับแนวทางสากลพร้อมดำเนินควบคู่ไปด้วยกัน

ในส่วนของ โรงกลึงพี-วัฒน์ เรื่องมาตรฐานการบริการผ่านปรัชญาที่เรายึดมั่นมาตลอดนั้นพร้อมดำเนินการสอดคล้องไปกับข้อปฏิบัติเกี่ยวกับ แนวทางป้องกันโควิด-19 โรงงานอุตสาหกรรม ในทุกกระบวนการได้ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ปัจจุบันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นภายในโรงงานผลิตก็ดี หรือทีมงานที่ต้องติดต่อโดยตรงกับลูกค้าก็ดี

โดยทางด้านของการผลิตเอง อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น เมื่อมีมาตรการปฎิบัติสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร บวกกับความมุ่งมั่นของเราที่เตรียมตัวอยู่เสมอเพื่อรักษามาตรฐาน พร้อมยกระดับความเชื่อมั่นของลูกค้าต่อสินค้าและบริการของเรา 

ดังนั้น นอกเหนือจากความพึงพอใจในตัวของชิ้นงานแล้ว เรื่องความปลอดภัยเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นสิ่งที่เราเน้นย้ำทีมงานมาโดยตลอด นี่คือสิ่งเพิ่มเติมผสมผสานรวมกับปรัชญาหลักของเรา เป็นขั้นตอนที่พวกเราใส่ใจเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ข้อจำกัดที่อาจมาพร้อมกับสิ่งใหม่ที่ดีกว่าเดิม?

แนวทางป้องกันโควิด-19 โรงงานอุตสาหกรรมหรือแนวทางป้องกันโรคระบาดสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการโรงกลึง ไม่ได้เป็นเพียงแค่ข้อปฏิบัติสำหรับการทำงานภายใต้ขีดจำกัดของวิกฤติการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสเท่านั้น แต่หากเรามองเจาะลึกลงไปจากผลกระทบร่วมกับการปรับตัวเพื่อ New Normal ด้วย สิ่งเหล่านี้เองทำให้โรงงานต่าง ๆ หันกลับมาพัฒนาระบบของตนเองมากขึ้น เทคโนโลยีและดิจิตอลจะเข้ามามีบทบาทมากกว่าที่เคยแน่นอน 

ฉะนั้น นี่ไม่ใช่การจบแบบการมอง “โลกสวย” เพียงแต่ในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ ข้อจำกัดมากมายขนาดนี้ การปรับตัวไม่ใช่การถอยหลัง 

หรือหากจะนิยามว่าเป็นการก้าวถอยหลังจริง ๆ นี่ก็คงเป็นการถอยกลับมาพัฒนาในสิ่งที่สามารถต่อยอดเพื่อให้เรากระโดดได้ไกลขึ้น เชื่อว่าหากสามารถรันธุรกิจโรงงานอุตสาหกรรมภายใต้มาตรการโควิดที่ออกมาได้อย่างเกิดประสิทธิภาพสูงสุด บางทีผลลัพธ์ที่ได้หลังจากนี้อาจทำให้เกิดระบบใหม่ที่ดีกว่าเดิมก็เป็นได้..

Image by aleksandarlittlewolf on Freepik

รู้ไว้เป็นประโยชน์ ข้อดีของจิ๊กและฟิกซ์เจอร์ ฮีโร่แห่งการทำซ้ำ

ต่อเนื่องจากบทความสาระอุตสาหกรรมครั้งก่อนของโรงกลึงพี-วัฒน์ เรื่อง คนทำงานอุตสาหกรรม ทำไมต้องรู้จัก “จิ๊กและฟิกซ์เจอร์” (ใครยังไม่ได้อ่านคลิกที่ลิงก์นี้ได้เลยครับ https://pwat.co.th/why-know-jigs-fixtures) เราได้แชร์เนื้อหาความหมายของจิ๊กและฟิกเจอร์ รวมถึงวัตถุประสงค์ในการใช้งานของเครื่องมือดังกล่าวไปแล้ว หลายๆ คนในแวดวงอุตสาหกรรมโดยเฉพาะวงการงานกลึงโลหะ งานผลิตชิ้นส่วนอะไหล่ ที่จะต้องเกี่ยวข้องกับจิ๊กและฟิกซ์เจอร์เป็นหลักน่าจะได้ประโยชน์จากตรงนี้มากขึ้น ในวันนี้โรงกลึงพี-วัฒน์จะนำเสนอข้อมูลเพิ่มเติมที่ยังคงเป็นประโยชน์เช่นเดิม เกี่ยวกับ ข้อดีของจิ๊กและฟิกซ์เจอร์ เพื่อให้เห็นถึงความสำคัญและประโยชน์ของเครื่องมือนี้มากขึ้น

อ้างอิงเนื้อหาทางวิชาการของ National Institute of Technology Calicut (NITC) ได้จำแนกข้อดีของจิ๊กและฟิกซ์เจอร์ออกแบบ 4 ด้านสำคัญๆ ดังนี้

ผลผลิต:
จิ๊กและฟิกซ์เจอร์ช่วยเพิ่มผลผลิตโดยช่วยเรื่องการจัดการการมาร์กตำแหน่งของชิ้นงาน เมื่องานในโรงกลึงต้องการผลผลิตจำนวนมาก จิ๊กและฟิกซ์เจอร์จะช่วยลดเวลาในการทำงานได้อย่างมาก เนื่องจากความเร็วการป้อนและความลึกของการตัดเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีความแข็งแกร่งในการจับยึดสูง

ความสามารถในการแลกเปลี่ยนและคุณภาพ:
จิ๊กและฟิกซ์เจอร์ช่วยอำนวยความสะดวกในการผลิตชิ้นงานในปริมาณมากอย่างที่กล่าวไปข้างต้น แต่เสริมคือมีความแม่นยำระดับสูง และให้คุณภาพที่สม่ำเสมอ รวมถึงคุณสมบัติหลักที่ขาดไม่ได้คือความสามารถในการแลกเปลี่ยนแทนกันได้ (interchangeability) กล่าวคือสามารถผลิตชิ้นงานจำนวนมากที่ซับซ้อนได้อย่างแม่นยำ คือมีขนาด มีสเปค เท่ากันเป๊ะ ส่งผลให้ช่วยผู้ประกอบโรงกลึงสามารถลดต้นทุนได้เป็นอย่างดี

ใช้งานง่าย:
ช่างเทคนิคหรือผู้ใช้งานจิ๊กและฟิกซ์เจอร์ในโรงกลึงไม่จำเป็นต้องมีความชำนาญมากนักก็สามารถใช้งานได้คล่องแคล่ว เพราะใช้งานง่าย ช่วยให้ผู้ประกอบการโรงกลึงสามารถจ้างพนักงานควบคุมเครื่องจักรที่ไม่ต้องมีทักษะมากนัก เพื่อช่วยอประหยัดค่าแรงงาน

ลดต้นทุน:
การผลิตที่สูงขึ้น การลดเศษวัสดุ ประกอบง่ายและประหยัดต้นทุนแรงงาน ส่งผลให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลงสูงสุด

ขอบคุณบทเรียนด้านเครื่องมืออุตสาหกรรมจาก nitc.ac.in

จิ๊กและฟิกซ์เจอร์ คืออะไร ? ทำไมคนทำงานอุตสาหกรรมต้องรู้จัก

การดำเนินการผลิตชิ้นงานหรือชิ้นส่วนอุตสาหกรรมจำนวนมาก (mass production) ให้ประสบความสำเร็จนั้นขึ้นอยู่กับ “interchangeability” หรือความสามารถในการแลกเปลี่ยนกันได้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบให้ง่ายขึ้น ไวขึ้น (เพราะต้องผลิตเป็นจำนวนมาก) และช่วยลดต้นทุนต่อหน่วยนั่นเอง สิ่งสำคัญคือต้องมีวิธีการจัดวางตำแหน่งที่ง่ายและรวดเร็ว วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติดังที่กล่าวมานั้น อุปกรณ์ชนิดนี้มีชื่อว่า จิ๊กและฟิกซ์เจอร์ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกันว่า จิ๊กและฟิกซ์เจอร์ คืออะไร

“จิ๊กและฟิกซ์เจอร์” หรือ อุปกรณ์จับยึด เป็นเครื่องมือในการผลิตที่ใช้ในการผลิตชิ้นส่วนที่เหมือนๆ กันหรือซ้ำๆ กัน และใช้แทนกันได้อย่างแม่นยำ กล่าวคือเป็นเครื่องมือที่มีคุณสมบัติ interchangeability ดังที่ได้กล่าวไป ที่สำคัญในแต่ละโรงกลึง ส่วนใหญ่แล้วจิ๊กและฟิกซ์เจอร์จะได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถกลึงหรือประกอบชิ้นส่วนจำนวนมากให้ออกมามีสเปค รูปร่างและขนาดได้เหมือนกัน และเพื่อให้แน่ใจว่าส่วนประกอบสามารถเปลี่ยนกันได้ (หมายถึงมีคุณสมบัติ interchangeability แลกเปลี่ยนกันได้ ใช้แทนกันได้ในแต่ละชิ้นงาน เพราะมีรูปร่าง ขนาด สเปค เหมือนกันเป๊ะๆ นั่นเอง)

จิ๊กและฟิกซ์เจอร์ คืออะไร

Jigs (จิ๊ก)

เป็นอุปกรณ์จับยึดชิ้นงาน ตามตำแหน่งที่ถูกระบุไว้ เพื่อนำทางให้เครื่องมือตัด สำหรับการผลิตชิ้นงานแบบเฉพาะทาง เช่น อะไหล่แต่งรถ อะไหล่ชิ้นส่วนเครื่องจักรเฉพาะทาง เป็นต้น

โดยปกติจิ๊กจะติดตั้งบูชเหล็กชุบชนิดแข็ง เพื่อความแข็งแรง แน่นหนา เพื่อจับยึดไม่ให้ชิ้นงานไม่ขยับไปไหน ในขณะที่เครื่องมือตัดกำลังทำงาน ซึ่งก็ถือว่าเป็นการแนะแนวทางการเดินของเครื่องตัดไปในตัว เพราะเครื่องตัดก็จะต้องตัดตามแนวทางที่จิ๊กยึดไว้ตามตำแหน่ง ดังที่กล่าวอีกนัยนึงคือจิ๊กถือเป็นเครื่องมือประเภทหนึ่งที่ใช้ควบคุมตำแหน่งและ/หรือการเคลื่อนไหวของเครื่องมืออื่นๆ ในการผลิต

จุดประสงค์หลักของจิ๊กคือการให้ความสามารถในการทำซ้ำ ความแม่นยำและ ความสามารถในการใช้แทนกันได้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ดังที่กล่าวไปเรื่องคุณสมบัติ interchangeability

สรุป: อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ทั้งสองอย่าง จับงานและชี้แนะเครื่องมือในการผลิต เรียกว่า “จิ๊ก”

จิ๊กและฟิกซ์เจอร์ คืออะไร

ฟิกซ์เจอร์ (Fixtures)

เป็นอุปกรณ์จับชิ้นงานที่ยึดรองรับและระบุตำแหน่งชิ้นงานสำหรับการใช้งานเฉพาะ แต่ไม่ได้แนะนำทางเดินให้กับเครื่องมือตัดเหมือนอย่างจิ๊ก

สิ่งที่ทำให้ฟิกซ์เจอร์ไม่เหมือนใคร คือแต่ละชิ้นถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เข้ากับชิ้นส่วนหรือรูปร่างเฉพาะ โรงกลึงแต่ละที่ส่วนใหญ่ก็จะมีฟิกซ์เจอร์ของตัวเองก็ว่าได้

จุดประสงค์หลักของการติดตั้งฟิกซ์เจอร์คือ เพื่อค้นหาและในบางกรณีถือชิ้นงานระหว่างการตัดเฉือนหรือกระบวนการทางอุตสาหกรรมอื่นๆ จิ๊กแตกต่างจากฟิกซ์เจอร์ตรงที่มันนำเครื่องมือไปยังตำแหน่งที่ถูกต้องนอกเหนือจากการระบุตำแหน่งและรองรับชิ้นงาน

ตัวอย่าง: แท่นจับชิ้นงาน

สำหรับในบทความนี้คิดว่าทุกคนคงได้รู้จักจิ๊กและฟิกซ์เจอร์กันมากขึ้น เข้าใจประโยชน์ของเครื่องมือชนิดนี้กันบ้างแล้ว สำหรับครั้งหน้าบทความดีๆ จากโรงกลึงพี-วัฒน์จะของนำเสนอข้อดีของจิ๊กและฟิกซ์เจอร์ แล้วรอติดตามกันได้เลยครับ

ขอขอบคุณบทเรียนด้านเครื่องมืออุตสาหกรรมจาก nitc.ac.in

มาตรฐานอุตสาหกรรม ในประเทศไทยมีกี่ประเภท? อะไรบ้าง?

มาตรฐานอุตสาหกรรม

มาตรฐานอุตสาหกรรม ของไทย แบ่งออกเป็น 2 ประเภท

-1-

มาตรฐานอุตสาหกรรม

มาตรฐานบังคับ ประเภทที่ผู้ผลิตต้องผลิตให้ได้มาตรฐาน เป็นเครื่องหมาย มอก. (สีน้ำแดง) ที่แสดงบน
ผลิตภัณฑ์ที่มีกฎหมายกำหนดให้ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่
ผู้บริโภค และป้องกันความเสียหายที่จะเกิดข้ึนแก่เศรษฐกิจของประเทศผู้ผลิต ผู้นำ้เข้าและผู้
จำหน่ายจะต้องผลิต นำเข้าและจำหน่ายเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ต้องเป็นไปตามมาตรฐานเท่านั้น ถ้าผลิต
ไม่ได้มาตรฐานจะผิดกฎหมาย เช่น ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ เหล็กเส้นเสริมคอนกรีต และกระจก
นิรภัยรถยนต์ เป็นต้น ซึ่งจะต้องติดเครื่องหมาย มอก.


เครื่องหมาย มอก. แสดงถึงคุณภาพของมาตรฐานอุตสาหกรรมที่ได้รับการรับรองมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ต่างๆ
ซึ่งมีส่วนสำคัญในการช่วยตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์นั้นๆ ว่าผู้บริโภคจะได้รับการคุ้มครองใน
ด้านความปลอดภัยรวมทั้งไดรับความเป็นธรรมจากการบริโภคผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เช่น มอก.
20-2527 เหล็กเส้นเสริมคอนกรีต : เหล็กเส้นกลม เป็นต้น

-2-

มาตรฐานอุตสาหกรรม

มาตรฐานทั่วไป ประเภทที่ผู้ผลิตต้องผลิตให้ได้มาตรฐานหรือไม่ก็ได้เป็นเครื่องหมาย มอก. (สีน้ำเงิน) ที่แสดง
กับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมาตรฐานไม่บังคับ ผู้ผลิตสามารถยื่นขอใบอนุญาตแสดงเครื่องหมายมาตรฐาน
ได้ด้วยความสมัครใจ แต่ถ้าผลิตได้มาตรฐานจะติดเครื่องหมาย เช่น มอก. 80-2550 ปูนซีเมนต์
ผสม เป็นต้น

ที่มา: เอกสารประกอบการเรียนการสอน นายโสฬส เกษวิริยะการณ์ ครูวิทยฐานะ ชำนาญการ วิทยาลัยเทคนิคชุมพร (cptc.ac.th)

สำหรับผู้ประกอบการ โรงงาน บริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลึง ก็ต้องทำความเข้าใจและพยายามพัฒนาปรับปรุงกระบวนการและสินค้าของตนให้อยู่ในมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับ เพื่อความมั่นใจของลูกค้าและผู้บริโภค

Image by aleksandarlittlewolf on Freepik

อะไรคือ “อุตสาหกรรมครัวเรือน” และ “อุตสาหกรรมโรงงาน” ?

อุตสาหกรรมโรงงาน

อุตสาหกรรม (Industry) เป็นคำจำกัดความที่ใช้กับกิจกรรมที่ใช้ทุนและแรงงาน เพื่อที่จะผลิตสิ่งของหรือจัดให้มีบริการ ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ คือ อุตสาหกรรมในครัวเรือน และ อุตสาหกรรมโรงงาน

โดยมีที่มาในคำจำกัดความเหล่านี้จากในสมัยยุควิกตอเรีย นักประวัติศาสตร์เรียกช่วงเวลานั้นว่า การปฏิวัติอุตสาหกรรม โดยมีการผลิตเครื่องทุ่นแรงต่างๆ มากมาย และทำให้อุตสาหกรรมเจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็วและมีระเบียบ เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด นอกจากนี้ การปฏิวัติอุตสาหกรรมยังเกี่ยวของกับลัทธิสังคมนิยมของ คาร์ล มาร์กซ (ลัทธิมาร์กซ) อีกด้วย

อุตสาหกรรมโรงงาน
Image by senivpetro on Freepik

ประเภทของอุตสาหกรรม แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ

  1. อุตสาหกรรมครัวเรือน อุตสาหกรรมการผลิตง่ายๆ เล็กๆ มักทำกันในครอบครัวหรือหมู่บ้าน ไม่ใช้แรงงาน ทุนและปัจจัยมาก แต่มักได้กำไรต่ำ อุตสาหกรรมจำพวกนี้มีตัวอย่าง เช่น หัตถกรรมจักสาน เซรามิก ถ้วยโถโอชามต่างๆ รวมไปถึงสินค้าประเภทอาหารบรรจถุงหรือหีบห่อที่มียี่ห่อบางชนิด เป็นตันด้วย และสินค้าโอทอป  (หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัทฑ์) บางชนิดเองก็ถือเป็นอุตสาหกรรมอีกด้วย
  2. อุตสาหกรรมโรงงาน คือ อุตสาหกรรมที่ผลิตในโรงงาน สินค้ามักมีมาตรฐานเดียวกัน ไม่เเตกต่างกันมากนัก พบมากในเขตเมือง หรือเขตที่มีความเจริญต่างๆ สินค้าพวกนี้มักเป็นสิ่งอุปโภคและสินค้าฟุ่มเฟือยต่างๆ เช่น กระดาษทิชชู บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง เครื่องนุ่งห่ม สุรา บุหรี่ เป็นต้น และสินค้าบางประเภทมีการโฆษณาส่งเสริมการขายด้วย

โรงกลึงของบริษัทพี-วัฒน์ ถือเป็นอุตสาหกรรมโรงงาน เนื่องจากชิ้นงานของเราผลิตในโรงงาน มีบริษัทจดทะเบียนถูกต้องและมีมาตรฐานในกระบวนการการผลิตและการทำงาน มีพนักงานขึ้นทะเบียนเสียภาษีถูกต้อง ลูกค้าจึงมั่นใจได้ในการผลิตงาน มั่นใจได้ในคุณภาพ และความซื่อสัตย์ใส่ใจที่เราให้ความสำคัญมาเสมอ

ที่มา: sites.google.com/site/nganchang1112