NFT บน Supply Chain

NFT Supply Chain

กระแสมาแรงจริง ๆ สำหรับเรื่องของ “NFT” ในวันที่เทคโนโลยี Blockchains ได้พาบรรดาเหล่า Cryptocurrency ให้ได้รู้จักเป็นที่แพร่หลายในวงกว้าง แล้วก็กลายเป็นประเด็นร้อนที่ทำให้ถูกพูดถึงตลอดจนความนิยม เรียกว่านี่อาจเป็นหนึ่งในการปฏิวัติวิธีที่เราประมวลผลข้อมูลออนไลน์และธุรกรรมการเงินเลยก็ว่าได้

สำหรับสิ่งนี้ บุคคลและธุรกิจต่าง ๆ ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว แต่สำหรับ “Supply Chain” การปรับใช้เข้ากับ NFT ยังมีสิ่งสำคัญที่ต้องตระหนักถึงการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ รักษาทุกขั้นตอนการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพและเป็นปัจจุบันมากที่สุด

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณต้องการสร้างความฮือฮาในอุตสาหกรรมทั่วโลกด้วยสิ่งนี้ การเปลี่ยนวัตถุประสงค์จากวงการศิลปะสู่โลกธุรกิจให้ได้ใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้มากกว่าที่เคย ลองติดตามผ่านเนื้อหาด้านล่างนี้ดูว่า NFT จะเข้ามาปฏิวัติห่วงโซ่อุปทานได้อย่างไร…

NFT Supply Chain

NFT คืออะไร?

Non-Fungible Token เป็นชื่อเต็ม ๆ ของสิ่งนี้ หรือที่คุ้นหูคุ้นปากกันว่า NFT ซึ่งก็คือ Cryptocurrency ประเภทหนึ่งที่สามารถแสดงความครอบครองของสินทรัพย์ด้วยการเป็น “เจ้าของ” แต่ละเหรียญแต่ละแบบจะมีความแตกต่างทางด้านมูลค่า และที่สำคัญคือ Non-Fungible Token เหรียญอื่น ๆ ไม่สามารถนำมาทดแทนกันได้ด้วย

ยกตัวอย่างเช่น สมมติเพื่อนคุณยืม เมคานิคอล คีย์บอร์ด สุดยูนีคของคุณไป ก็ต้องเอาคีย์บอร์ดตัวดังกล่าวมาคืนเท่านั้น! เพราะการปรับแต่งสรรค์สร้างของคีย์บอร์ดประเภทนี้มีความเฉพาะตัวสูง ไม่สามารถเอาคีย์บอร์ดแบบอื่นมาคืนได้ ต่อให้เป็นรุ่นเดียว ผลิตในปีเดียวกัน ใช้ส่วนประกอบอื่น ๆ เหมือนกันก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วมันก็ “ไม่ใช่ตัวเดียวกัน”

ถ้ายังนึกภาพตามไม่ออกถึงความเฉพาะตัวของ NFT ลองคิดเปรียบเทียบกับ Bitcoin หรือเหรียญอื่น ๆ ที่เป็น Fungible Token ทั่วไป หากคุณถูกเพื่อนยืมไป 3 Bitcoin เวลาจะคืนเพื่อนคุณสามารถหา Bitcoin จากที่ไหนมาคืนก็ได้ เพราะมันเหมือนกันหมด อะไรแบบนี้

ดังนั้น การซื้อขายการถือครอง NFT จะไม่สามารถซื้อเป็นหน่วยย่อยเหมือน Cryptocurrency ประเภทอื่น ๆ ได้ ชัดเจนที่สุดสำหรับตัวอย่างนี้คงจะเป็นเรื่องการซื้อภาพวาดที่เราจำเป็นต้องซื้อภาพนั้นทั้งภาพ ไม่สามารถซื้อแบบยิบย่อยแต่ละส่วนได้นั่นเอง

ประโยชน์ของ NFT บนอุตสาหกรรม

การสร้างทรัพยากรที่หายากและไม่ซ้ำใคร ไม่สามารถทำซ้ำหรือทำลายได้ กลายเป็นปัจจัยหลักที่ NFT จะเข้ามายกระดับในทุก ๆ อุตสาหกรรม โดยรับประกันความถูกต้องของข้อมูลตลอดเวลา นี่เป็นสิ่งสำคัญยิ่งหากองค์กรใดที่มีความภาคภูมิใจในเอกลักษณ์และยึดถือเรื่องโครงสร้างของทุก ๆ ผลิตภัณฑ์

นอกจากนี้ NFT ยังติดตามได้บนบล็อคเชน การมีข้อมูลเกี่ยวกับประวัติที่ไม่เปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์ ทำให้มั่นใจได้ถึงความถูกต้อง ตลอดจนที่มาของสินทรัพย์นั้น ๆ และไม่สามารถถูกทำลายได้ แถมยังไม่เสื่อมสภาพอีกต่างหาก ซึ่งจากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ก็น่าจะพิสูจน์ได้ในระดับหนึ่งแล้วว่าสิ่งนี้เป็นการลงทุนที่ดีสำหรับโลกยุคใหม่

NFT Supply Chain

NFT กับ Supply Chain

NFT Supply Chain แม้จะรับความนิยมและถูกพูดถึงอย่างแพร่หลายจากเกม ของสะสมและงานศิลป์ ปัจจุบัน NFT ได้เริ่มถูกนำมาใช้กับอุตสาหรกรรมอื่น ๆ ด้วยการพัฒนาการล่าสุดจากที่มีการอัพเดตมา NFT ได้เข้าร่วมการปฏิวัติเทคโนโลยีบล็อคเชนในการสร้างสรรค์นวัตกรรมการจัดการ Supply Chain โดยหน้าที่หลักของพวกเขาในซัพพลายเชน ตอนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นการตรวจสอบความถูกต้องของสินค้าแต่ละรายการ เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและแหล่งกำเนิดของสินค้าได้แบบ 100 เปอร์เซนต์ โดยเจ้าโทเค็นนี้ไม่เพียงแต่ตรวจสอบความถูกต้อง แต่ยังทำหน้าที่ในการขจัดของปลอม แถมยังสามารถตรวจสอบย้อนกลับไปเช็คผลิตภัณฑ์ตลอดกระบวนการ รักษาแหล่งที่มา และรับรองความเป็นเอกลักษณ์ได้ดีเยี่ยม

การนำ NFT มาใช้กับอุตสาหกรรมนั้นเพิ่งจะเริ่มขึ้นไม่กี่ปีที่ผ่านมา โรงกลึงพีวัฒน์เองก็เฝ้าติดตามกรณีศึกษามาสักพักเพราะไม่อยากตกเทรนด์ ตัวอย่างที่น่าสนใจเป็นแบรนด์แฟชั่นสุดหรูอย่าง Luis Vuitton ได้เผยแผนงานเมื่อปี 2019 ที่จะเปิดตัวแพลตฟอร์มบล็อคเชนสำหรับใช้โทเค็นที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาของสินค้าของพวกเขาซึ่งมีวัสดุพรีเมียมและราคาสูง โดยสิ่งนี้สามารถตรวจสอบคุณภาพ แหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์ผ่านการติดตามวัสดุในซัพพลายเชนได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันพิสูจน์ให้ลูกค้าเห็นถึงเอกลักษณ์และคุณภาพ กล่าวได้ว่านี่จะเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับองค์กรใดก็ตามที่มีผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์หรือชื่อเสียงที่ต้องรักษาไว้ การตรวจสอบผลิตภัณฑ์ด้วยเทคโนโลยีนี้จะยิ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าคุณใส่ใจในทุกขั้นตอนที่ทำ 

นอกจากนี้นี่ยังเป็นข้อได้เปรียบอย่างมากในการรักษาการปฏิบัติตามกฏระเบียบและการทำงานอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการติดตามและรับรองความถูกต้องของเอกสาร คุณสามารถมั่นใจได้ว่าคุณกำลังส่งมอบพร้อมคำมั่นสัญญาในการรักษาตัวตนความเป็นเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ ทุกอย่างสามารถรับประกันได้หากเป็น NFT

NFT Supply Chain

ยกระดับด้วย NFT ดีอย่างไร?

ผลประโยชน์เดียวกันนี้ หากลองมองไปที่ธุรกิจที่อิงกับซัพพลายเชนอื่น ๆ เช่น อุตสาหกรรมขนส่ง รถยนต์โดยเฉลี่ยมีชิ้นส่วนประมาณ 30,000 ชิ้น ไม่ว่าจะเป็นการผลิตขึ้นเองหรือจัดหาจากผู้ให้บริการ Third Party หากเป็น NFT จะให้ข้อมูลเชิงลึกที่เพิ่มขึ้นแก่คุณเกี่ยวกับวัสดุและส่วนประกอบแต่ละรายการที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ คุณสามารถเข้าถึงทุกวัสดุที่ใช้ตั้งแต่ที่ตั้งปัจจุบันไปจนถึงแหล่งกำเนิด นอกจากนี้ยังนำมาปรับใช้ในเรื่องข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจและคำนวนต้นทุนการผลิตได้อีกด้วย

สุดท้ายนี้ไม่ว่าจะเลือกใช้บล็อคเชนเข้ามายกระดับการจัดการซัพพลายเชนแล้ว หรือมีแผนที่จะเริ่มใช้ NFT เพิ่มประสิทธิภาพของเทคโนโลยีเพื่อความก้าวหน้าในองค์กรของคุณ จากข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบันตอนนี้ คุณสามารถมั่นใจได้ระดับนึงเลยว่าการเปลี่ยนแปลงซัพพลายเชนเป็นแบบดิจิทัล จะเป็นกุญแจสำคัญต่อการก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 ที่กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดในเวลานี้ และจะทำให้องค์กรของคุณได้เปรียบในการแข่งขันนี้อย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงการันตีความถูกต้องในทุกกระบวนการอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน…

ขอขอบคุณสาระดี ๆ จากบทความต้นทางมา ณ ที่นี้ : What are NFTs & What does it Mean for Supply Chains? (flexis.com)

เทรนด์โลจิสติกส์กับการขนส่งอุตสาหกรรมในปี 2022 ที่น่าสนใจ

โลจิสติกส์

ความเสียหายต่อเนื่องจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ซึ่งอันที่จริงแล้วปี 2021 ณ ปัจจุบันที่กำลังจะผ่านพ้นไป เริ่มมีการวางโครงสร้าง มองหากลยุทธ์ใหม่ ๆ มาปรับใช้กับวงการ “โลจิสติกส์” อันเป็นหนึ่งในกระบวนการสำคัญต่ออุตสาหกรรมแทบจะทุกประเภท หลาย ๆ โรงงานอุตสาหกรรมทั่วโลก ทั่วประเทศ รวมถึงโรงกลึงพีวัฒน์ก็ต่างเจอปัญหาจากผลกระทบเรื่องการขนส่งที่มีต้นเหตุจากโรคระบาดไม่น้อยเช่นกัน

ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่แล้วเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าจากสิ่งที่เกิดขึ้นเสียมากกว่า แต่หลังจากที่ทั่วโลกได้ประเมินแล้วว่าต้องอยู่กับสถานการณ์แบบนี้ไปอีกพักใหญ่ การมองถึงเรื่องอนาคตโดยนำเอานวัตกรรมต่าง ๆ มาผูกกับระบบการขนส่งจึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจ กลายเป็นหัวข้อที่เราจะพูดคุยกันในวันนี้

โลจิสติกส์ กับ Covid-19

อุตสาหกรรมโลจิสติกส์เคยมีมูลค่าสูงถึง 7,641.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อปี 2017 แต่พอเจอกับพิษ Covid-19 เข้าไปทำเอาลดลงมาเหลือ 5,200 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2019 ส่วนต่างขนาดนี้ต่อให้เราไม่ได้เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง เห็นตัวเลขที่หายไปยังรู้สึกน่าตกใจไม่น้อยเลยใช่มั้ยล่ะ..

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ที่เริ่มคลึ่คลายลงในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก ข้อมูลล่าสุดที่เราได้สืบค้นมา ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมโลจิสติกส์กำลังจะกลับมาเข้ารูปเข้ารอย อาจเติบโตไปถึงตัวเลขระดับ 12,975.64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2027 ได้ไม่ยาก

ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยสำคัญที่จะเข้ามายกระดับอุตสาหกรรมนี้ และในปี 2022 ที่กำลังจะถึง เราได้นำแนวโน้มที่จะเข้ามาเพิ่มศักยภาพให้กับวงการโลจิสติกส์ โดยเนื้อหาทั้งหมดอยู่ด้านล่างแล้ว ตามไปเสพย์กันได้เลย

โลจิสติกส์

เทรนด์ โลจิสติกส์ ที่น่าสนใจในปี 2022

ต้องบอกกันแบบนี้ก่อนว่าในช่วงที่หลาย ๆ อุตสาหกรรมเจอกับผลกระทบอย่างหนักหน่วง แต่เรื่องของเทคโนโลยีและนวัตกรรมนั้นรุดหน้าอยู่เสมอ โดยเนื้อหาต่อไปนี้จะเทรนด์ที่น่าสใจเกี่ยวกับการยกระดับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ที่อาจจะเข้ามามีอิทธิพลในปี 2022 รวมถึงปีต่อ ๆ ไป

คลาวด์ คอมพิวติ้ง

แม้ว่าอาจมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลในช่วงแรกที่มีการเริ่มใช้ แต่การนำระบบคลาวด์ คอมพิวติ้ง มาใช้นั้นถือเป็นโอกาสใหญ่ของบริษัทที่จะก้าวข้ามผ่านขีดจำกัดเรื่องโลจิสติกส์จากโมเดล SaaS (Software-as-a-Service) ที่จะช่วยให้เข้าถึงผลกำไรที่สูงขึ้นเกินกว่าผลตอบแทนทั่วไปจากความสามารถขององค์กร

คลาวด์จะกลายเป็นข้อกำหนดพื้นฐานสำหรับงานบริการโลจิสติกส์ที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ข้อดีมีมากมาย ทั้งช่วยลดค่ายใช้จ่ายด้านไอทีสำหรับการบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานและการตั้งค่าโซลูชั่น ช่วยให้ผู้บริการกำหนดเป้าหมายธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องกาาชำระค่าเทคโนโลยีตามการสมัครรับใช้ข้อมูล โดยเหล่านี้มีบริษัทซัพพลายเชนร่วมเป็น Third Party คอยตอบสนอง แก้ปัญหา เชื่อมทุกอย่างเข้าด้วยกัน

เทคโนโลยีบล็อคเชน

แอปพลิเคชั่นบล็อคเชนมีศักยภาพสูงในการเติมเต็มฟังก์ชั่นด้านโลจิสติกส์ เป็นตัวกำหนดทิศทางการกระจายสินค้าและการขนส่งในปี 2022 และปีต่อ ๆ ไป  มีความสามารถในการแก้ปัญหาสำคัญ ๆ ได้โดยการสร้างบันทึกดิจิทัลที่เข้ารหัสซึ่งติดตามสินค้าในทุกขั้นตอนของซัพพลายเชน มองเห็นได้อย่างชัดเจนหากเกิดความผิดปกติที่ส่งผลต่อการขนส่ง ช่วยให้บริษัทเข้าถึงปัญหาหาและแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญที่สุดสำหรับ บล็อคเชน สามารถทำให้กระบวนการโลจิสติกส์เป็นไปอย่างอัตโนมัติ แถมยังตรวจสอบ สนับสนุน แบ่งปันข้อมูลได้อย่างปลอดภัย และบรรลุเป้าหมายร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

โลจิสติกส์

Internet of Things (IoT) 

ปัจจุบันสิ่งนี้อาจจะยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร แต่แนวคิดระบบการขนส่งอัจฉริยะ การวางแผนเส้นทาง อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ได้ผสานรวมโซลูชั่น AI เข้ากับการดำเนินงาน นับเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ได้รับการพูดถึงและจะเพิ่มศักยภาพได้อย่างมหาศาล

แบบสำรวจของการใช้ AI ทั่วโลก การนำสิ่งนี้มาใช้พิสูจน์ให้เห็นถึงคุณค่าของการใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการขนส่ง สามารถเพิ่มผลกำไรของบริษัทได้มากกว่า 40% ต่อปี และการที่บริษัทยักษ์ใหญ่บางแห่งเพิ่มการลงทุนในเทคโนโลยี AI เพื่อประหยัดเงินและเวลาในอนาคต ก็น่าจะเป็นคำตอบได้อย่างดี

รถบรรทุกไร้คนขับ

น่าจะยังเร็วเกินไปนิด หากจะพูดเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรายังเห็นข่าวรถพลังงานไฟฟ้าของ Tesla ใช้ระบบ “ออโตไพลอต” แล้วยังเกิดอุบัติเหตุตามท้องถนนอยู่..

ซึ่งก็เป็นไปตามที่แหล่งข้อมูลได้กล่าวไว้ เทคโนโลยีการขับขี่ด้วยตนเองยังอยู่ในระหว่างพัฒนาและปรับปรุง ยังมีอุปสรรคอีกหลายอย่างที่ต้องเอาชนะ เช่น การปรับปรุงซอฟต์แวร์ไร้คนขับเพื่อให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดบนถนนในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น ซึ่งถือเป็นงานหินพอสมควร แต่ก็เป็นหนึ่งในแนวโน้มอันสอดคล้องกับคมนาคมขนส่งในอนาคตที่ผู้เชี่ยวชาญได้คาดการณ์เอาไว้ หากทุกอย่างลงตัวพร้อมใช้งาน นี่น่าจะเป็นเทรนด์ที่น่าตื่นเต้นที่สุดเทรนด์นึง ชนิดที่คนทั่วไปเห็นแล้วยังต้องอึ้งกันเลย

Last-Mile Delivery

ภาษาธุรกิจของอุตสาหกรรมของโลจิสติกส์ หากเรียกกันแบบให้เข้าใจง่ายที่สุดน่าจะเป็น “ไม้สุดท้าย” ของการขนส่งนั่นเอง

บริษัทต่าง ๆ ได้พัฒนาเรื่องนี้กันมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การจัดสั่งอันราบรื่นที่สุด โดยในปี 2022 ที่จะถึงนี้ มีองค์กรจำนวนไม่น้อยพร้อมจะใช้ประโยชน์จากเครื่องมือเทคโนโลยีและนวัตกรรมชั้นสูง เพื่อให้ลูกค้าได้รับข้อมูลอัพเดตแบบเรียลไทม์ ตลอดจนกระทั่งเหตุผลในการที่สินค้ายังไม่ถูกจัดส่ง รวมถึงแนวทงการแก้ปัญหาต่าง ๆ ของการขนส่งเคสบายเคสแบบละเอียด

การส่งมอบไม้สุดท้ายเป็นส่วนสำคัญที่สุดของกานขนส่งเลยก็ว่าได้ เพราะมีความเกี่ยวข้อโดยตรงกับระดับความพึงพอใจของลูกค้า แต่สิ่งที่ทำให้เทรนด์นี้อยู่ในลำดับท้าย ๆ ที่จะนำมาพิจารณาทั้ง ๆ ที่หากทำได้ดีจะส่งผลดีกับบริษัทโดยตรง นั่นเป็นเพราะมีอีกหลายปัจจัยที่อยู่เหนือการควบคุมขององค์กรนั่นเอง

โลจิสติกส์

อย่างที่เรารู้กันว่าหลายอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์โรคระบาดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่สิ่งที่ได้ก็มาในรูปแบบของการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ มารองรับ ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาจากเรื่องดังกล่าว หรือการเพิ่มศักยภาพ เพิ่มหนทางใหม่ ๆ ในการผลักดันให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ เหมือนกับเทรนด์ของอุตสาหรรมโลจิสติกส์ที่เรานำมาพูดคุยกันผ่านเนื้องหาวันนี้ หากคุณรู้สึกสนใจหัวข้อไหน สามารถต่อยอดหาข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดเชิงลึกเพื่อนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้เลย

ขอขอบคุณเนื้อหาสาระจากแหล่งข้อมูล และบทความดี ๆ จากต้นทางมา ณ ที่นี้

https://www.globaltrademag.com/what-does-2022-have-in-store-for-the-shipping-logistics-industry/

https://xtendedview.com/business/emerging-logistics-industry-trends/8813/