แก้ “ปัญหาโลกร้อน” กำจัดขยะอุตสาหกรรมให้ถูกวิธี !

ปัญหาโลกร้อน

ปัจจุบันสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อโลกอย่างเห็นได้ชัดที่สุดก็คือขยะอุตสาหกรรมที่มีการกำจัดขยะไม่ถูกวิธี แน่นอนว่าเรื่องนี้จะส่งผลต่อสภาพแวดล้อมรอบข้างและชุมชนที่อาศัยอยู่ใกล้กับทางโรงงาน เป็นต้นตอสำคัญของไป ปัญหาโลกร้อน อย่างแท้จริง ซึ่งสิ่งที่ส่งผลเสียอย่างเห็นได้ชัด คือไม่ว่าจะเป็นมลภาวะทางอากาศ การเทของเสียลงแม่น้ำ การปล่อยก๊าซพิษ การกำจัดของเสียอันตรายผิดวิธี และอื่นๆ อีกมากมาย

เราทุกคนสัมผัสได้แน่นอนว่าในทุกวันนี้ร้อนเหลือเกิน แน่นอนว่ามันคือผลกระทบโดยตรงจากปัญหาโลกร้อนและภาวะเรือนกระจก ซึ่งในมุมของโรงกลึง โรงงานอุตสาหกรรม ส่วนสำคัญที่เกี่ยวข้องโดยตรงก็หนีไม่พ้นเรื่องการปล่อยของเสีย และการกำจัดขยะอุตสาหกรรมผิดวิธี.. โรงกลึงพีวัฒน์ขออินกับกระแส Sustainability อาสาบอกเล่าให้ฟังว่าขยะอุตสาหกรรมส่งผลต่อโลกร้อนอย่างไร และมีวิธีแก้ไขอย่างไร สามารถตามอ่านไปด้วยกันได้แลย

ขยะอุตสาหกรรม ต้นตอของ ปัญหาโลกร้อน

สำหรับคำว่าขยะอุตสาหกรรมคือของเสียที่เกิดจากกระบวนการผลิต ของที่เสื่อมสภาพ ของที่หมดอายุ สารเคมีและสารปนเปื้อน  และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งถือว่าสิ่งเหล่านี้เป็นการสร้างขยะมหาศาลและยังเป็นอันตรายอีกด้วย สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ ขยะอันตรายและขยะไม่อันตรายโดยมีรายละเอียดดังนี้

  • ขยะอันตราย : สารไวไฟและน้ำมันชนิดต่างๆ , สารกัดกร่อน , สารที่เกิดปฏิกิริยาง่าย , ของที่ปนเปื้อนสารพิษ
  • ขยะไม่อันตราย :  กากผลไม้ , เศษผ้า , เศษเหล็ก , เศษกระดาษ

กากอุตสาหกรรมเหล่านี้หากกำจัดแบบผิดวิธีก็จะสามารถส่งผลต่อสภาวะโลกร้อนได้ หรือที่เรารู้จักในชื่อว่า “ก๊าซเรือนกระจก” ที่เกิดจากการนำขยะฝังกลบ การเผาขยะแบบเปิด การบำบัดเชิงชีวภาพ การบำบัดน้ำเสีย ซึ่งจะมีการปล่อยก๊าซมีเทน , ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และ ก๊าซไนตรัสออกไซด์ที่จะทำให้โลกร้อนขึ้นในทุกปีๆ ซึ่งสามารถสังเกตจากประเทศไทยได้ว่าอุณหภูมิความร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ

วิธีการกำจัดขยะอุตสาหกรรมถูกต้องตามกฎหมาย

ในส่วนเนื้อหาที่ว่าด้วยเรื่องวิธีการกำจัดขยะอุตสาหกรรมก่อนที่จะรู้ว่ามีวิธีไหนบ้าง จำเป็นที่จะต้องรู้ถึงประโยชน์ของการลดขยะเสียก่อน โดยประโยชน์ก็จะมีในเรื่องของการประหยัดค่าใช้จ่ายในการกำจัดของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม พัฒนาโรงงานเพื่อลดความผิดพลาดในการผลิตสินค้า สามารถสร้างสิ่งแวดล้อมบริเวณรอบด้านและเป็นมิตรกับชุมชนที่อยู่ใกล้ ๆ ได้ นอกจากนี้ยังเปลี่ยนของเสียให้กลายเป็นมูลค่าได้อีกด้วย โดยวิธีการกำจัดกากขยะที่โรงงานส่วนใหญ่ใช้เป็นมาตรฐานก็คือหลัก 3R ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ปัญหาโลกร้อน
Image by Freepik

1. Reduce ลดใช้สินค้าหรือวัตถุดิบในการผลิตลง

สำหรับ Reduce นับว่าเป็นวิธีป้องกันก่อนเกิดเหตุขยะอุตสาหกรรมโดยสามารถเริ่มจากการใส่ใจกระบวนการผลิตทุกขั้นตอนแล้วลองไล่เช็คเครื่องโรงงานว่ามีการทำงานที่มีประสิทธิภาพอยู่หรือไม่ เพราะถ้าหากมีการผลิตผิดพลาดบ่อย ๆ ก็จะกลายเป็นว่าเพิ่มขยะได้โดยไม่รู้ตัว นอกจากนี้ลดการใช้สินค้าหรือวัตถุดิบในการผลิตให้น้อยลงก็นับเป็นวิธีที่น่าสนใจไม่น้อย หรือหากพบว่าบางจุดที่ไม่จำเป็นอย่างเช่นแพคเกจจิ้งที่มีความซ้ำซ้อนก็จะสามารถลดลงขยะได้ด้วยเช่นกัน

2. Reuse การนำขยะกลับมาใช้ซ้ำ

โรงงานที่เป็นอุตสาหกรรมฝ่ายภายผลิต แน่นอนว่าจะมีกากอุตสาหกรรมมากมายหลายอย่าง ที่มีทางเลือกที่ว่านำไปกำจัดอย่างถูกวิธี แต่ถ้าหากขยะเหล่านั้นนำกลับมาใช้ซ้ำได้ก็นับว่าเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ และเป็นคีย์หลักในการแก้ ปัญหาโลกร้อน ยกตัวอย่างเช่น 

  • การนำพลาสติกมาละลายเพื่อนำกลับมาใช้ซ้ำ 
  • การส่งคืนถังบรรจุสารต่างๆของลูกค้า กลับมาที่โรงงานเพื่อนำมาใช้งานต่อ 
  • ภายในโรงงานหากมีจุดที่เสียหากซ่อมแซมได้ก็ให้ซ่อมแซม ดีกว่าการซื้อของใหม่อย่างแน่นอน
ปัญหาโลกร้อน
Image by rawpixel.com on Freepik

3. Recycle การนำขยะไปแปรรูปให้เป็นประโยชน์

ในส่วนของ Recycle จะเป็นการนำขยะอุตสาหกรรมไปแปรรูปต่าง ๆ ให้กลับมาใช้ประโยชน์ในรูปแบบอื่นได้ หรือก็คือการเปลี่ยนขยะเสียอย่างหนึ่ง เพื่อเป็นของใหม่หรือไปเป็นส่วนผลิตด้านอื่นๆ  ยกตัวอย่างเช่น 

  • การนำของเสียหรือของที่ใช้แล้วที่มีค่าความร้อนไปใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทน (น้ำมันเครื่อง น้ำมันหล่อลื่น) 
  • การนำไปเป็นเชื้อเพลิงผสม (กระดาษ , ผ้าปนเปื้อน , สารตัวทำละลาย , กากตะกอน) 
  • การเผาเพื่อเอาพลังงาน (เส้นใยปาล์มนำไปทำเชื้อเพลิงในหมอไอน้ำ
  • การใช้เศษไม้และขี้เลื้อยไม่มีสารปนเปื้อนทำเป็นเชื้อเพลิงปรุงอาหาร)  
  • การนำน้ำมันเครื่องและน้ำมันหล่อลื่นใช้แล้วส่งไปยังโรงงานผลิตสีทาบ้าน
  • การส่งยางรถยนต์ที่เสียแล้วให้กับทางโรงงานน้ำมันดีเซล
  • การนำของเสียหรือวัตถุดิบที่เสียหาย ไปใช้ประโยชน์ด้านอื่น ๆ 

สำหรับ 3R ที่ได้แนะนำไปข้างต้นนับว่าเป็นวิธีการกำจัดขยะอุตสาหกรรมที่เข้าใจง่ายและสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง แต่ทั้งนี้การกำจัดขยะในรูปแบบอื่นก็มีมากมาย เช่น การนำไปถมที่กรณีที่ไม่ใช่ขยะอันตราย การหมักทำปุ๋ย การนำเศษอาหารไปเป็นอาหารสัตว์ การนำของเสียโลหะไปสกัดเพื่อนำโลหะกลับมาใช้ใหม่ และอื่นๆ อีกมากมายที่นับว่าเป็นวิธีปลอดภัยและมีประโยชน์เป็นอย่างมาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะสามารถลดปัญหาโลกร้อนได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

แก้ปัญหาโลกร้อน แก้ปัญหาขยะอุตสาหกรรม เพื่อโลกอนาคต

ตามหลักกฎหมายแล้วโรงงานที่มีขยะเสียหรือขยะอุตสาหกรรมจำเป็นจะต้องส่งไปให้โรงงานรับกำจัดขยะที่ได้รับใบอนุญาตและมาตรฐานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เพื่อที่ว่าสามารถกำจัดขยะได้ถูกวิธีและไม่ส่งผลต่อโลกใบนี้ โดยต้องเริ่มใส่ใจตั้งแต่โรงงานผู้ก่อกำเนิดขยะ ผู้ขนส่งขยะ และโรงงานรับบำบัดหรือกำจัด หากทั้ง 3 ในที่นี้สามารถแก้ไขได้ถูกวิธีและทำตามกฎหมายที่ได้มีการกำหนดไว้ แน่นอนว่าสภาพแวดล้อม สิ่งมีชีวิต รวมไปถึงภาวะโลกร้อนจะดีขึ้นได้นั่นเอง

Credit Cover Image : Image by Freepik

แนวทางส่งเสริมการกำจัดขยะอุตสาหกรรมให้ถูกวิธี

กำจัดขยะอุตสาหกรรม

จากข้อมูลเมื่อปี 2016 มีรายงานว่าประเทศไทยนั้นผลิตกากอุตสาหกรรมอันตรายออกมามากถึง 2.8 ล้านตัน แต่ที่น่าตระหนกไปกว่านั้น มีเพียง 1.1 ล้านตัน ที่ถูกนำไปเข้าสู่กระบวนการ กำจัดขยะอุตสาหกรรม แบบถูกต้องโดยหน่วยงานบริษัทที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคิดเป็นเพียง 40 เปอร์เซนต์ของทั้งหมด เรียกว่าไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ และจากที่ได้ศึกษาข้อมูลผ่านเว็บสถาบันวิจัยเพื่อพัฒนาประเทศไทย พบว่าสาเหตุคร่าว ๆ มาจากต้นทุนการกำจัดขยะอุตสาหกรรมนั้นมีมูลค่าที่สูงลิบ ขยะอันตราย 1 ตัน มีต้นทุนในการกำจัดตั้งแต่ 4,000 บาท ไปจนถึงระดับ 150,000 บาท ตามแต่ละประเภทกันเลยทีเดียว

แต่ก่อนจะตามหาสาเหตุที่ทำให้การกำจัดขยะอุตสาหกรรมหรือกากอุตสาหกรรม บทความนี้อาจะเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่จะทำให้คุณรู้จักกับสิ่งนี้มากยิ่งขึ้น และน่าจะเป็นประโยชน์หากอุตสาหกรรมของคุณสามารถแยกประเภทของขยะอุตสาหกรรมแต่ละประเภทได้แบบจริงจัง ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายบนการเลือกใช้บริการกับบริษัทที่เกี่ยวข้องได้แบบตรงโจทย์ต่อธุรกิจของคุณมากที่สุด โดยสิ่งต่าง ๆ นี้เป็นหนึ่งในกระบวนการรักษ์โลกอีกด้วย

กำจัดขยะอุตสาหกรรม

ขยะอุตสาหกรรม คืออะไร?

ของเสียจากอุตสาหกรรมประกอบด้วยของเสียต่าง ๆ ที่เกิดจากกิจกรรมทางอุตสาหกรรมในระหว่างกระบวนการผลิต ดังนั้น ของเสียอุตสาหกรรมอาจประกอบไปด้วยของเสียจากสารเคมี ของเสียอันตราย และของเสียที่เป็นพิษ โดยทั้งหมดที่กล่าวมานี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาผู้ที่มีความสามารถมีคุณสมบัติที่เหมาะสมในการกำจัดของเสียจากอุตสาหกรรมของคุณ นอกจากจะเป็นการดำเนินตามมาตรการสากลแล้ว ยังเป็นการปกป้องสุขภาพของมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อมจากของเสียอุตสาหกรรมที่เป็นอันตรายนั่นเอง

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณต้องเข้าใจว่าอุตสาหกรรมของคุณกำลังสร้างของเสียจากอุตสาหกรรมประเภทใด เพื่อที่จะได้ทราบว่าของเสียเหล่านั้นจะต้องได้รับการจัดการอย่างไร รวมถึงการปฏิบัติตามข้อระเบียบบังคับใดซึ่งก็อาจแตกต่างกันไปตามประเภทของเสียต่าง ๆ

ประเภทของขยะอุตสาหกรรม

จากขยะมากมายที่หลายประเภทองค์กรผลิตขึ้น โดยแบ่งเป็นประเภทต่าง ๆ ได้ดังนี้

  • ของเสียที่เป็นพิษ
  • ขยะเคมี
  • ขยะอุตสาหกรรม
  • ขยะมูลฝอยชุมชน
  • ผลิตภัณฑฺ์กระดาษ
  • กากกัมมันตภาพรังสี
  • โลหะ
  • เชื้อเพลิงสำรอง
  • น้ำมันหล่อลื่น
  • แบตเตอรี่
  • สารเคมีต่าง ๆ เช่น กรด ด่าง และฟีนอล
  • เครื่องกำเนิดไฟฟ้า ปั๊มสำหรับกระบวนการผลิต และหม้อแปลงไฟฟ้า
  • ของเสียในห้องปฏิบัติการ
  • และอื่น ๆ อีกมากมาย

ซึ่งจากลิสต์ที่เราได้กล่าวไปจะเห็นได้ว่ามีขยะอุตสาหกรรมบางประเภทที่ไม่สามารถจำกัดได้ตามปกติ เช่น ของเสียที่เป็นสารพิษต่าง ๆ สารเคมี และกัมมันตภาพรังสี ซึ่งจำต้องมีบริษัทและผู้ชำนาญการที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องเป็นผู้ดูแล ทั้งนี้ก็เพื่อให้ทุกฝ่ายแน่ใจว่าของเสียอันตรายจะไม่ทำให้ใครหรือสิ่งใดต้องตกอยู่ในความเสี่ยง

กำจัดขยะอุตสาหกรรม

แนวทางการกำจัดขยะอุตสาหกรรมที่น่าสนใจของประเทศยักษ์ใหญ่

ประเทศสหรัฐอเมริกา ในแต่ละปีนั้นมีการสร้างและกำจัดขยะมูลฝอยทางอุตสาหกรรมประมาณ 7.8 พันล้านตัน ซึ่งเป็นจำนวนเยอะกว่าประเทศไทยแบบเทียบกันไม่ได้เลย ทั้งนี้ก็มาจากกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมในประเทศที่มีความเข้มงวดอย่างมาก ทำให้บริษัทอุตสาหกรรมต่าง ๆ จำต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด รวมถึงการศึกษาให้เข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับขยะอุตสาหกรรมที่คุณประกอบธุรกิจ โดยการจัดการของเสียจากอุตสาหกรรมจะมีการใช้เทคโนโลยีและบริการที่เหมาะสม เพื่อเป็นแนวทางในการรักษาการจัดการตามข้อกำหนดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างเต็มที่

มีรายงานว่ามีโรงงานหลายแห่งในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ที่เปิดให้ทิ้งขยะอุตสาหกรรมได้ แต่ก็วนกลับมาที่มาตรการเบื้องต้น คือคุณจำเป็นต้องตรวจสอบและมีความแน่ใจแล้วว่าประเภทขยะของคุณนั้นตรงกับที่โรงงานเปิดให้บริการหรือไม่ โดยเฉพาะหากเป็นของเสียอันตราย มีน้อยมากที่จะเปิดให้บริการ แต่ก็เพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศ

เลือกใช้บริการกับผู้เชี่ยวชาญ ประหยัดต้นทุนได้มากกว่า

โดยส่วนใหญ่การจำกัดของเสียอันตรายจะอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีชื่อเสียง เนื่องจากมีอุปกรณ์ที่เพียบร้อมรวมถึงผู้ชำนาญการที่ถูกอบรบมาอย่างดีเพื่อขจัดปัญหาเหล่านี้ แต่ก็มาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นตามไปด้วย อย่างไรก็ตามนั่นถือเป็นหนึ่งในหน้าที่ของคุณที่จะต้องรับผิดชอบทั้งทางกฎหมายและทางการเงินสำหรับของเสียเหล่านั้นที่อุตสาหกรรมของคุณสร้างขึ้นมา จนกว่าทุกอย่างจะได้รับการขนส่ง บำบัด หรือกำจัดอย่างเหมาะสมที่สุด

จากทั้งหมดที่กล่าวมา ข้อสังเกตคือขนาดประเทศยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริการยังไม่มีโรงงานไหนเลยที่กำจัดขยะอุตสาหกรรมได้ด้วยตัวเอง การเลือกใช้บริการกำจัดของเสียโดยบริษัทผู้เชี่ยวชาญ นอกจากจะมั่นใจได้ว่าการจัดการของเสียจากอุตสาหกรรมนั้นดำเนินไปตามหลักเกณฑ์ของรัฐท้องถิ่นและรัฐบาลกลาง ยังมีบริการที่ช่วยคุณจำแนกของเสียต่าง ๆ ว่าเป็นประเภทใด แม้จะมีค่าใช้จ่ายไม่น้อยแต่ก็ประหยัดต้นทุนได้มากกว่าการที่จะริเริ่มทำทุกอย่างด้วยตัวเองทั้งหมด

กำจัดขยะอุตสาหกรรม

ย้อนมองประเทศไทย แนวโน้มการจัดการขยะอุตสาหกรรมในอนาคต

จากที่ได้จั่วหัวเอาไว้ตั้งแต่ช่วงต้นของบทความ ปัญหาต้นทุนที่แพงหูฉี่ในการกำจัดขยะอุตสาหกรรมของประเทศไทย แรกเลยมาจากการที่โรงงานกำจัดขยะพิษมีน้อยเกินไป โดยปัจจุบันไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่ามีมากขนาดไหน แต่จากข้อมูลปี 2016 พบว่ามีโรงงานที่สามารถกำจัดสารพิษได้ทุกประเภทเพียง 4 โรงงานเท่านั้น โดยมี 3 โรงงานที่เป็นประเภทฝังกลบ ส่วนโรงงานที่ได้รับอนุญาตให้ใช้เตาเผาเฉพาะเพื่อกำจัดขยะอันตรายมีเพียงแค่ 1 โรงงานถ้วน ด้วยเหตุนี้เองจึงอาจทำให้เกิดการผูกขาดตลาด กำหนดราคาได้ตามใจชอบ เลยเถิดจนถึงปัญหาการลักลอบทิ้งและกำจัดแบบผิดกฎหมาย

แนวโน้มที่จะช่วยแก้ปัญหานี้เบื้องต้นได้ ทุกโรงงานหรือโรงกลึงควรต้องมีการศึกษาและรู้ว่าอุตสาหกรรมของตนเองนั้นผลิตขยะอุตสาหกรรมประเภทใด มีการแยกประเภทให้ถูกต้องอย่างที่ประเทศยักษ์ใหญ่ปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัด อย่างน้อยถ้าช่วยลดกระบวนการก็อาจทำให้ต่อรองราคาได้เบาบางลงบ้าง รวมถึงการเพิ่มนโยบายจากส่วนกลางสร้างโรงงานจำกัดขยะพิษให้มีจำนวนมากขึ้น ตลอดจนถึงการผลักดันเพื่อแก้พระราชบัญญัตโรงงานที่ใช้มาตั้งแต่ พ.ศ. 2535 ซึ่งฉบับนี้ค่าปรับสูงสุดอยู่ที่ 200,000 บาทเท่านั้น หากมองจากจุดนี้ การลักลอบทิ้งแล้วโดนจับได้หนึ่งครั้งแล้วต้องเสียค่ายปรับ ดูจะเบาบางกว่าการเลือกใช้บริการกำจัดขยะตลอดทั้งปีเสียอีก

ขอขอบคุณข้อมูลต่าง ๆ ที่นำมาใช้ประกอบบทความมา ณ ที่นี้

https://blog.idrenvironmental.com/how-industrial-waste-disposal-is-managed

https://www.businesswaste.co.uk/industrial-waste-disposal

https://tdri.or.th/2018/08/industrial-waste