ไบโอมีเทน เครื่องยนต์ชีวมีเทน นวัตกรรมพลังงานสะอาดที่อาจเปลี่ยนโลก

ไบโอมีเทน

ไบโอมีเทน (Biomethane) กำลังเป็นพลังงานทางเลือกที่ทั่วโลกให้ความสนใจ โดยเฉพาะในญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่ใช้ก๊าซชีวภาพนี้ บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักว่าไบโอมีเทนคืออะไร แตกต่างจากก๊าซชีวภาพทั่วไปอย่างไร ญี่ปุ่นพัฒนาไปถึงไหนแล้ว และใช้งานจริงที่ไหนบ้าง

ไบโอมีเทนคืออะไร?

ไบโอมีเทน คือก๊าซชีวภาพที่ผ่านการปรับปรุงคุณภาพให้บริสุทธิ์จนสามารถนำมาใช้เป็นพลังงานทดแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะกับเครื่องยนต์ ก๊าซนี้ผลิตจากการหมักขยะอินทรีย์ เช่น เศษอาหาร มูลสัตว์ และพืชผลทางการเกษตร แล้วนำมากรองให้เหลือเฉพาะก๊าซมีเทนความเข้มข้นสูง ซึ่งเรียกว่า ชีวมีเทน หรือในบริบทสากลใช้คำว่า “Biomethane”

ไบโอมีเทน

ข้อดีของไบโอมีเทน

  • ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ
  • ใช้ของเสียในชุมชนให้เกิดประโยชน์
  • ผลิตได้ในประเทศ ลดการนำเข้าพลังงาน
  • ใช้งานได้ทั้งในภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และการขนส่ง
  • รองรับแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

ญี่ปุ่นกับการพัฒนาเทคโนโลยีไบโอมีเทน

หลังภัยพิบัตินิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ญี่ปุ่นเริ่มลงทุนในพลังงานทางเลือกหลายรูปแบบ และหนึ่งในพลังงานที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือ ไบโอมีเทน เนื่องจากสามารถผลิตในระดับท้องถิ่น ใช้งานได้จริง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

กระบวนการผลิตชีวมีเทนในญี่ปุ่น

  1. รวบรวมขยะอินทรีย์ เช่น มูลสัตว์ เศษอาหาร
  2. นำเข้าสู่ถังหมักไร้ออกซิเจนเพื่อให้จุลินทรีย์ย่อยสลาย
  3. ได้ก๊าซชีวภาพ แล้วนำมากรองให้ได้ไบโอมีเทนบริสุทธิ์
  4. บรรจุในถังแรงดันเพื่อส่งต่อให้กับภาคส่วนต่างๆ เช่น การขนส่ง หรือผลิตกระแสไฟฟ้า

บริษัทญี่ปุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ไบโอมีเทน

  • Toyota พัฒนาเครื่องยนต์สำหรับรถโดยสารที่ใช้ไบโอมีเทนควบคู่กับระบบไฮบริด ในโครงการ Zero Emission Public Transit
  • Isuzu เปิดตัวรถบรรทุกต้นแบบที่ใช้ก๊าซไบโอมีเทนอัด (CBG) เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระบบขนส่ง
  • Kubota วิจัยเครื่องยนต์การเกษตรที่ใช้ไบโอมีเทนจากมูลสัตว์ในฟาร์ม สร้างระบบพลังงานหมุนเวียนแบบปิดในภาคการเกษตร

ตัวอย่างการใช้งานจริงในญี่ปุ่น

  • จังหวัดฟุกุโอกะ รถเก็บขยะของเทศบาลใช้ก๊าซไบโอมีเทนที่ผลิตจากเศษอาหารในเมือง
  • จังหวัดฮอกไกโด กลุ่มฟาร์มโคนมร่วมกันผลิตชีวมีเทนจากมูลวัวเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในฟาร์มและรถแทรกเตอร์
  • โตเกียว โครงการร่วมระหว่าง Tokyo Gas และมหาวิทยาลัยโตเกียว ใช้เศษอาหารในโรงอาหารผลิตพลังงานสำหรับรถรับส่งนักศึกษา
ไบโอมีเทน

โอกาสและความเป็นไปได้ในการใช้ไบโอมีเทนในประเทศไทย

ประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการพัฒนาไบโอมีเทน เนื่องจากมีแหล่งวัสดุอินทรีย์จำนวนมาก เช่น ของเสียจากฟาร์มปศุสัตว์ โรงงานแปรรูปอาหาร และน้ำเสียจากชุมชน ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตไบโอมีเทนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีนโยบายส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน เช่น แผนพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) ที่สนับสนุนการพัฒนาเชื้อเพลิงชีวภาพและก๊าซชีวภาพในเชิงพาณิชย์ อย่างไรก็ตาม การนำไบโอมีเทนมาใช้จริงในระดับอุตสาหกรรมยังคงต้องเผชิญกับข้อจำกัดหลายด้าน เช่น ต้นทุนการผลิตที่ยังสูง ความพร้อมของเทคโนโลยี และระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ยังไม่สมบูรณ์

แม้จะมีข้อท้าทาย แต่ในระยะยาว ไบโอมีเทนสามารถเป็นหนึ่งในคำตอบของประเทศไทยในการลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติจากต่างประเทศ และช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากภาคพลังงานและขนส่งได้อย่างมีนัยสำคัญ หากมีการลงทุนและสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างจริงจัง

อ้างอิง:

ทำไมไบโอมีเทนคืออนาคตของพลังงาน?

ไบโอมีเทนไม่เพียงเป็นพลังงานสะอาด แต่ยังช่วยแก้ปัญหาขยะอินทรีย์ สนับสนุนการพึ่งพาตนเองด้านพลังงาน และสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับระบบอุตสาหกรรมและเกษตรกรรมได้หลากหลาย ญี่ปุ่นแสดงให้เห็นแล้วว่าไบโอมีเทนสามารถใช้งานได้จริงในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นเมืองใหญ่หรือชุมชนท้องถิ่น และอาจกลายเป็นโมเดลสำคัญสำหรับโลกในยุคหลังคาร์บอน

ไบโอมีเทน
ไบโอมีเทน

Kay Takeaway

ไบโอมีเทนคือพลังงานหมุนเวียนที่กำลังถูกผลักดันอย่างจริงจังในญี่ปุ่น โดยอาศัยแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน เทคโนโลยีการหมักชีวภาพ และการประยุกต์ใช้กับเครื่องยนต์สมัยใหม่ ถือเป็นแนวทางใหม่ของพลังงานสะอาดที่โลกไม่ควรมองข้าม

  • เครื่องยนต์ชีวมีเทนหรือไบโอมีเทน คือทางเลือกพลังงานสะอาดที่ผลิตจากของเสียอินทรีย์
  • ญี่ปุ่นเป็นผู้นำในการพัฒนาและใช้งานจริง ทั้งในฟาร์ม เมือง และภาคอุตสาหกรรม
  • ไบโอมีเทนช่วยลดการปล่อยคาร์บอนและลดการพึ่งพาพลังงานฟอสซิล
  • เทคโนโลยีนี้เริ่มมีการทดลองใช้ในประเทศไทย แต่ยังอยู่ในระยะเริ่มต้น
  • หากได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ไทยมีศักยภาพสูงในการพัฒนาไบโอมีเทนเชิงพาณิชย์ในอนาคต

Credit Images : https://www.freepik.com

รักษ์โลกแบบยั่งยืน ทำความรู้จัก พลังงานทางเลือก ที่วันนี้ต้องเลือกได้แล้ว !

พลังงานทางเลือก

เราจะสังเกตเห็นได้ว่าสภาวะแวดล้อมของโลกมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมาก เริ่มต้นจากสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิความร้อนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนน่ากลัว อย่างประเทศไทยของเราหรือประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ในละแวกเส้นศูนย์สูตรเดียวกัน ปีนี้ก็เจอความร้อนระอุระดับ 45-50 องศาเซลเซียสกันก็มีมาแล้ว และมีผลกระทบในวงกว้างไปจนถึงมีภัยพิบัติเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้ หรือน้ำท่วม รวมไปถึงการสูญพันธุ์ของสัตว์ต่าง ๆ ที่ปรับตัวไม่ทัน ทำให้หลายประเทศทั่วโลก ต่างหันมาให้ความสำคัญกับ พลังงานทดแทน ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้เป็น พลังงานทางเลือก กันเพิ่มมากขึ้น เพราะต่างมีความคิดเห็นที่ตรงกันว่าจะสามารถช่วยทำให้โลกพัฒนาต่อไปได้อย่างยั่งยืน และในบทความนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักพลังงานทางเลือกในรูปแบบต่าง ๆ ที่สามารถนำมาใช้แทนพลังงานหลักในปัจจุบันที่ส่งผลต่อภาวะโลกร้อน เพื่อลดผลกระทบที่เริ่มรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ว่ามีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย

พลังงานทางเลือก
Image by freepik

พลังงานทดแทน พลังงานทางเลือก ..ที่เราต้องเลือกกันได้แล้ว !!!

  1. พลังงานแสงอาทิตย์ : การใช้พลังงานจากการแผ่รังสีของดวงอาทิตย์ เพื่อนำมาผลิตไฟฟ้าใช้ในครัวเรือน หรือภาคอุตสาหกรรม โดยใช้แผงโซลาร์เซลล์เป็นตัวเปลี่ยนพลังงาน เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี
  2. พลังงานลม : การใช้ลมเข้ามาช่วยในการผลิตไฟฟ้า เป็นอีกหนึ่งพลังงานทางเลือกที่สามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ เนื่องจากเป็นพลังงานที่ไม่มีวันหมด อีกทั้งยังเป็นพลังงานสะอาดอีกด้วย
  3. พลังงานน้ำ : น้ำ เป็นปัจจัยสำคัญต่อการใช้ชีวิตประจำวัน อีกทั้งยังเป็นแหล่งพลังงานที่เราสามารถนำมาผลิตไฟฟ้าได้ ซึ่งจะอาศัยรูปแบบการเปลี่ยนแปลงพลังงาน โดยการนำน้ำจากในเขื่อนมาผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้า
  4. พลังงาน BIOMASS (ชีวมวล) : เป็นพลังงานทางเลือกธรรมชาติ ที่ส่วนใหญ่ได้มาจากเศษจากกระบวนการผลิตทางการเกษตร หรือภาคอุตสาหกรรม เช่น ซากพืช ซากสัตว์ หรือก๊าซจากขยะต่าง ๆ จากนั้นนำมาผลิตเป็นพลังงานความร้อน หรือผลิตไฟฟ้า รวมไปถึงผลิตเป็นพลังงานเชื้อเพลิงได้อีกด้วย
  5. พลังงานจากความร้อนใต้ดิน : การใช้ความร้อนจากใต้ดิน สามารถนำมาผลิตเพื่อทำประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ได้หลายรูปแบบ เช่น เป็นแหล่งความร้อนเพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับชุมชน หรือนำมาใช้ประโยชน์กับภาคเกษตร และภาคอุตสาหกรรม เป็นต้น 
พลังงานทางเลือก
พลังงาน BIOMASS หรือชีวมวล Image by frimufilms on Freepik

การเลือกใช้ พลังงานทางเลือก มีความสำคัญต่อการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นทางด้านมลพิษ หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ก็ตาม ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งกระบวนการที่สามารถช่วยลดการเกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม และสร้างสังคมที่ยั่งยืนได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

พลังงานทางเลือก มีประโยชน์อย่างไร

นอกจากการนำพลังงานทางเลือกรูปแบบต่าง ๆ มาใช้เพื่อลดผลกระทบที่รุนแรงของสภาวะแวดล้อมแล้ว ก็ยังมีประโยชน์อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทั้งต่อสิ่งแวดล้อม หรือ ปัจจัยด้านสังคม ก็ตาม ดังนี้

  • ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก : การใช้พลังงานทางเลือกสามารถช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงจากแหล่งที่มีการสร้างมลพิษและปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ เช่น น้ำมันหรือถ่านหิน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
  • ลดค่าใช้จ่ายในการใช้พลังงาน : การใช้พลังงานทางเลือกสามารถลดค่าใช้จ่ายในการผลิตพลังงานลงได้ เนื่องจากแหล่งพลังงานทางเลือกจะมีต้นทุนในการดำเนินงานและการบำรุงรักษาที่ต่ำกว่า
  • สร้างงานและเพิ่มการลงทุน : การลงทุนในพลังงานทางเลือกสามารถสร้างงานใหม่และส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาคต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะในสาขาที่เกี่ยวข้อง เช่น การผลิตแผงโซลาร์เซลล์ หรือติดตั้งเครื่องกำเนิดพลังงานลม เป็นต้น
  • ลดความต้องการของพลังงานนิวเคลียร์ที่สูงขึ้น : การใช้พลังงานทางเลือกสามารถลดความต้องการในการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ได้ดีขึ้น ซึ่งมีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยและมลพิษที่เกิดขึ้นจากการเก็บรังสีนิวเคลียร์
  • สร้างความมั่นคงในการผลิตพลังงาน : การผลิตพลังงานจากแหล่งที่ไม่ใช่น้ำมัน หรือแก๊สธรรมชาติ สามารถลดค่าใช้จ่ายลงไปได้มาก อีกทั้งยังช่วยทำให้การจัดหาพลังงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 
  • สร้างเสถียรภาพเชิงเทคโนโลยี : การพัฒนาและใช้ พลังงานทางเลือก สามารถช่วยส่งเสริมการเกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ในเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องได้ เช่น การพัฒนาแผงโซลาร์เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เป็นต้น
พลังงานทางเลือก
Image by freepik

ข้อจำกัดของการใช้พลังงานทางเลือก มีอะไรบ้าง ?

แม้ว่าการใช้พลังงานทางเลือกจะมีประโยชน์มากมาย ทั้งทางด้านสิ่งแวดล้อม และสังคมก็ตาม ก็ยังมีข้อจำกัดอีกหลายอย่างในการพิจารณาเลือกนำมาใช้งานด้วยเช่นกัน ดังนี้

  • ความเหมาะสมในบางพื้นที่ : พื้นที่ต่าง ๆ อาจจะมีความเหมาะสมที่จะใช้งานพลังงานทางเลือกได้อย่างมีประสิทธิภาพแตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น การใช้พลังงานลมในพื้นที่ ที่มีลมในปริมาณไม่มากพอ ก็อาจจะทำให้ไม่ได้รับผลดีเท่าที่ควร เป็นต้น
  • ความเสี่ยงต่อสภาพอากาศ : พลังงานทางเลือกในบางแห่งจำเป็นต้องขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นหลัก เช่น การใช้พลังงานน้ำ ที่อาจมีปริมาณไม่เพียงพอต่อการผลิตไฟฟ้า หรือถ้าหากท้องฟ้ามืดครึ้ม ก็ทำให้มีแสงอาทิตย์ที่ไม่เพียงพอ เป็นต้น
  • ความผันผวนของการผลิต : บางแหล่งพลังงานทางเลือกมีความผันผวนต่อกระบวนการผลิตสูง ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่แน่นอนในการจัดหาพลังงาน
  • ความต้องการของพื้นที่ : บางแหล่งพลังงานทางเลือกอาจต้องใช้พื้นที่มาก เช่น การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ หรือก่อสร้างเขื่อน เป็นต้น
  • ความยุ่งเหยิงในการบริหารจัดการ : บางรูปแบบของพลังงานทางเลือกอาจมีความซับซ้อนในการบริหารจัดการ เช่น การบริหารจัดการระบบจัดเก็บ หรือการจำหน่ายพลังงานที่ผลิตจากแผงโซลาร์เซลล์
  • ต้นทุนเริ่มต้นสูง : การลงทุนในพลังงานทางเลือกอาจมีต้นทุนเริ่มต้นที่สูงกว่าการใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานที่มีการใช้งานมาแล้ว เช่น การสร้างโรงไฟฟ้าที่ใช้พลังงานลม หรือแสงอาทิตย์
พลังงานทางเลือก
Image by HelloDavidPradoPerucha on Freepik

Keys Takeaway

แม้ว่าการเลือกใช้พลังงานทางเลือกจะมีประโยชน์ต่อสภาพแวดล้อมในหลายด้าน แต่ก็มีข้อจำกัดอีกหลายประการที่ต้องคำนึงถึงอยู่ด้วยเช่นกัน แต่ทั้งนี้ถ้าหากทุกหน่วยงาน ร่วมมือกันก็จะช่วยทำให้โลกของเราน่าอยู่มากยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือพลังงานทางเลือกจะเป็นหนึ่งในแนวทางที่ช่วยรักษ์โลกได้อย่างยั่งยืน และช่วยทำให้ในอนาคตมีพลังงานสะอาดในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง

Cover Image : Image by freepik