Metaverse โลกเสมือนจริง ที่อาจยกระดับต่ออุตสาหกรรมได้ในอนาคตอันใกล้!

Metaverse

กระแสอาจจะซาลงไปบ้างแล้วสำหรับ “Metaverse” ที่ก่อนหน้านี้ทำเอาหลายคนตื่นเต้นร่วมวิพากษ์วิจารณ์ไปกับการเปิดตัวสุดฮือฮาของ “Meta” ชื่อที่ทาง เฟซบุค นั้นประกาศกลางงาน Facebook Connect ว่าบริษัทได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อดังกล่าว โดยคอนเซปต์คร่าว ๆ ก็คือการวางรากฐานสู่การเป็นบริษัทเมตาเวิร์สแบบเต็มตัว ว่ากันว่านี่เป็นสุดยอดฝันของทาง มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก CEO และผู้ร่วมก่อตั้งเฟซบุค

ว่ากันตามตรงแล้วผู้เขียนก็ยังไม่ได้รู้ลึกอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้มากมายนัก แต่พอศึกษาเรื่อย ๆ ก็เริ่มทึ่งเล็กน้อยเมื่อได้ไปค้นเจอหนึ่งบทความจากต่างประเทศ ซึ่งพูดถึงเรื่องของเมตาเวิร์สเกี่ยวกับการผลิตได้อย่างน่าสนใจ และอยากจะส่งต่อความเป็นไปได้เหล่านี้ให้เราได้ร่วมจินตนาการไปพร้อมกันว่า “หากเกิดขึ้นจริง” สิ่งนี้จะส่งผลต่ออุตสาหกรรมนี้ยังไง แล้วจะหยิบใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ได้มากน้อยแค่ไหน เผื่อว่ามาในอนาคตอันใกล้จะได้เตรียมตัวปรับตัวได้ทันที เพราะในแต่ละกระบวนการที่ต้นทางได้หยิบยกมา ถ้าทำได้จริงก็น่าจะช่วยยกระดับการผลิตได้อย่างน่าพอใจเลยล่ะ

รู้จัก Metaverse ผ่าน Ready Player One นวนิยายขายดี / หนังฮอลลีวูด

Ready Player One จากนวนิยายชื่อก้องติดอันดับขายดีของ เออร์เนสต์ ไคลน์ (Ernest Cline) ก่อนจะกลายมาเป็นสารตั้งต้นออกสู่สายตาผู้ชมผ่านภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ โดยผู้สร้างระดับตำนานอย่าง สตีเว่น สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg) ซึ่งเรื่องนี้ได้ใช้แนวคิดของ Metaverse ได้อย่างเหมาะสม มีการร้อยเรียงกับเนื้อหาหลักของเรื่องได้อย่างยอดเยี่ยม ว่ากันด้วยเรื่องของโลกอนาคตอันใกล้ต้องเผชิญกับวิกฤตด้านพลังงานและภาวะโลกร้อน เต็มไปด้วยความวุ่นวายใกล้จะล่มสลายเต็มที แต่ The Oasis จักรวาลเสมือนจริง ได้เข้ามามอบประสบการณ์รูปแบบใหม่อันน่าตื่นเต้น ถูกจำลองขึ้นมาได้ครบทุกมิติจนเหมือนเป็นอีกโลกหนึ่งจริง ๆ

Metaverse


ที่ร่ายยาวมานี้ไม่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมกาผลิตโดยตรง แต่สำหรับใครที่ยังนึกภาพไม่ออกว่าโลกเสมือนจริงนี้ทำงานยังไง ลองไปหาตัวอย่างหนังเรื่องนี้ หรือถ้ามีแบบเต็ม ๆ เรื่องก็ลองเสพย์ดูได้ เชื่อเลยว่าหลาย ๆ สิ่งในหนังจะทำให้คุณเชื่อมโยงเข้ากับแนวคิดที่บทความต้นทางพูดถึง Metaverse เกี่ยวกับการผลิตได้เห็นภาพชัดเจนขึ้นไม่มากก็น้อย

คุณลักษณะ 6 ประการของ Metaverse ภาคธุรกิจ

  1. การซิงโครไนซ์ / ความคงอยู่
  2. เศรษฐกิจแบบเต็มประสิทธิภาพ
  3. ไม่จำกัดจำวนผู้ใช้
  4. การทำงานร่วมกันของสินทรัพย์ดิจิทัล ข้อมูล และอื่น ๆ 
  5. เนื้อหาที่ผู้ใช้งานสร้างขึ้น
  6. ครอบคลุมเครือข่ายส่วนตัว เครือข่ายสาธารณะ ทั้งแพลตฟอร์มแบบเปิด / ปิด ฯลฯ

ซึ่งตอนนี้ทาง Roshan Srinivasan ได้บอกว่าจากข้อมูลต่าง ๆ ที่เขาได้ศึกษา ปัจจุบันที่เรามีอาจจะยังไม่ใกล้เคียงกับวิสัยทัศน์ที่จะนำไปสู่การเป็น Metavers อันสมบูรณ์แบบ แม้ว่าหลาย ๆ บริษัท อย่าง Facebook, Unity และ Nvdia ต่างเริ่มสร้างแบรนด์พร้อมจะเคลมตัวเองเป็นผู้นำในด้านนี้แล้วก็ตาม

ฟังก์ชั่นการทำงานของ เมตาเวิร์ส ณ ตอนนี้

ในแง่ฟังก์ชั่นการทใช้งาน เมตาเวิร์ส ปัจจุบัน บริษัทส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาใช้กับอุตสาหกรรมเกมเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงการสร้างประสบการณ์ร่วมที่ผู้ใช้สร้างขึ้น เช่น คอนเสิร์ต หรือ ภาพยนตร์ แต่ทิศทางหลังการประกาศของเฟซบุค ทำให้ผู้พัฒนาทั้งหลายต่างเริ่มเน้นที่ด้านของโซเชียลมีเดีย Metaverse มากยิ่งขึ้น

นอกเหนือจากโซเชียลมีเดียแล้ว มีกรณีการใช้งานที่น่าสนใจของเมตาเวิร์ส สำหรับแอปพลิเคชั่นทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น การทำงานระยะไกล จนไปถึงเรื่องของ “อีคอมเมิร์ซ” รวมถึงเรื่องของซอฟต์แวร์การออกแบบปรับขนาดเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่การผลิตอีกด้วย

Metaverse

การใช้ประโยชน์ของ Metaverse เพื่อการผลิต?

จากที่บอกเล่ามาทั้งหมด ก็มาสู่จุดสังเกตสำคัญที่ว่า “เราจะใช้ประโยชน์จากเมตาเวิร์สได้อย่างไร” จากข้อมูลของ Roshan Srinivasan ได้อธิบายไว้ว่าแนวทางการผลิตที่ขับเคลื่อนด้วยอภิปรัชญานั้นคล้ายกับบริษัทต่าง ๆ เช่น Shopify ที่ทำให้อีคอมเมิร์ซมีความเป็นประชาธิปไตยและอำนวยความสะดวกในความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของธุรกิจและซัพพลายเออร์ ส่วนในบริบทของ Metaverse คุณจะมีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักสามรายในการผลิต ดังนี้

  • บริษัท / เจ้าของออกแบบ: บุคคลหรือบริษัทที่จะใช้การจำลองซอฟต์แวร์ที่เหมือน CAD เพื่อออกแบบเลย์เอาต์ของโรงงานรวมถึงส่วนประกอบการออกแบบที่จะผลิต (อยากบอกว่าทีมวิศวกรของโรงกลึงพี-วัฒน์สนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ ถึงกับค้นคว้าราคาต้นทุนของอุปกรณ์เหล่านี้เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมรับมือในอนาคต)
  • ผู้ผลิตบุคคลที่ 3 (3rd Party Manufacturers) และ ผุ้ให้บริการด้านลอจิสติกส์: บุคคลหรือบริษัทในระบบซัพพลายเชน ที่จะสามารถตั้งศูนย์การผลิตและผลิตสินค้าที่แตกต่างกันได้โดยลดกระบวนการให้น้อยลง ส่งผลให้การระยะเวลาในการรอคอยสินค้าน้อยลงตามไปด้วย
  • ลูกค้า: ผู้ใช้ในกลุ่มนี้จะสามารถติดตามได้ทุกกระบวนการที่เปิดให้เข้าถึงได้ ได้รู้เห็นถึงระยะเวลาการส่งมอบสินค้าแบบชัดเจน
Metaverse

ในท้ายที่สุดแล้ว แง่มุมสำคัญของเมตาเวิร์สตามบริการที่จะเข้ามาเปลี่ยนแนวทางการผลิตสำหรับผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นไฮไลต์ที่สามารถเกิดขึ้นจริงได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะช่วยในเรื่องการออกแบบกระบวนการผลิตที่รวดเร็ว ช่วยให้ออกแบบผลิตภัณฑ์ได้จำนวนที่มากขึ้น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกันจะลื่นไหลและเป็นในทิศทางเดียวกันมากยิ่งขึ้น ด้วยระบบเฟรมเวิร์คและจุดเด่นในเรื่องของ “การแบ่งปันพื้นที่ส่วนกลาง” ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการควบคุมคุณภาพ โดยใช้การออกแบบอิงตามฟิสิกส์ที่มีรายละเอียดมากขึ้น ทำให้ข้อผิดพลาดสำหรับการผลิตน้อยลง ซึ่งเป็นส่วนกระทบสำคัญที่อาจมีต่อธุรกิจ

Metaverse

ส่วนหมัดเด็ดที่จะทำให้ทุกคนรู้สึก “ว้าว” เกี่ยวกับ Metaverse ร่วมกัน ก็ยังคงเป็นพาร์ทของ “ลูกค้า” ที่จะมาในรูปแบบของความโปร่งใสมากยิ่งขึ้น ความสบายใจที่ได้รับรู้ในหลาย ๆ กระบวนการ ซึ่งก็มาจากการปรับปรุงรูปแบบการมองเห็นในกระบวนการซัพพลายเชน ที่ถึงตอนนั้นแล้วอาจนำเสนอในรูปแบบ 3 มิติ หมายความว่านอกจากจะได้รู้ในหลายขั้นตอนแล้ว ลูกค้าจะได้ทราบระยะเวลาที่แน่นอนในการรอสินค้า การอัพเดตถึงปัญหาความล่าสช้าซึ่งก็อาจจะมีเกิดขึ้นบ้าง ตลอดจนการมองเห็นที่มากขึ้นส่วนของต้นทุนการจัดส่งแบบ “เรียลไทม์” สำหรับผู้จัดจำหน่ายที่แตกต่างกัน ทั้งการขนส่งสินค้าและการส่งมอบไมล์สุดท้าย

ขอขอบคุณบทความต้นทางเกี่ยวกับเรื่องผลกระทบของ Metaverse สู่การผลิต : https://www.iotforall.com/impact-of-the-metaverse-on-manufacturing